บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ PPPM เป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัทบ่อยมาก ล่าสุด ได้แต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ แทนคนที่ลาออก รวมทั้งแต่งตั้งผู้อำนายการสายบัญชีและการเงินคนใหม่อีกครั้ง
กรรมการที่เพิ่งลาออกพร้อมกัน 3 คน มีผลวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ประกอบด้วย พล.อ.อ.พิธพร กลิ่นเฟื่อง ประธานกรรมการ พล.อ.เชาวฤทธิ์ ประภาจิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร และนางนที ชวนสนิท กรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระ
PPPM ไม่ได้แจ้งเหตุผลการลาออกของกรรมการทั้ง 3 คน และถ้ามีการแจ้ง คงเป็นเหตุผลด้านสุขภาพตามมารยาท แต่เบื้องหลังการลาออกที่แท้จริงคงต้องสืบค้นกันเอง
นายปริน ชนันทรานนท์ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง PPPM เข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทแทน และเปิดแถลงข่าวเรียกความเชื่อมั่นผู้ถือหุ้น โดยระบุว่า ภายในไตรมาสที่ 3 จะสรุปแนวทางการแก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินและแผนการดำเนินงาน เพื่อแก้ปัญหาขาดทุน
นักลงทุนคงต้องรอดูว่า แผนของคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ มีความเป็นไปได้เพียงใด
แต่ราคาหุ้น PPPM ไม่รอข้อสรุปแผนการแก้ปัญหาฐานะทางการเงินแล้ว เพราะถูกลากขึ้นไปอย่างร้อนแรง ทั้งที่แนวทางการฟื้นฟูการดำเนินงานบริษัทยังไม่ชัดเจน
หลังจากหุ้นถูกพักการซื้อขาย 1 วัน เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินไตรมาสที่ 2 และเมื่อบริษัทฯ ได้ชี้แจงข้อมูล ตลาดหลักทรัพย์จึงเปิดการซื้อขายใหม่เมื่อวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม ราคาได้พุ่งทะยานขึ้นมาปิดที่ 99 สตางค์ เพิ่มขึ้น 20 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 25.32%
เบื้องหลังการลาออกของ 3 กรรมการ ประกอบด้วย 2 นายพล และอีก 1 กรรมการอิสระ เป็นปมที่น่าสนใจมาก เพราะก่อนหน้า พล.อ.อ.พิธพร ทำหน้าที่ลงนามชี้แจงข้อมูลบริษัทของ PPPM มาตลอด
เป็นไปได้หรือไม่ที่กรรมการทั้งหมดที่ลาออก จะรู้หรือเห็นอะไรภายในบริษัท และไม่ต้องการมีภาระรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้รู้ได้เห็น จึงตัดสินใจอำลาตำแหน่ง
บริษัทจดทะเบียนมักดึงนายทหารหรือนายตำรวจ เข้ามานั่งเป็นประธานกรรมการบริษัท โดยเฉพาะนายทหารนายตำรวจผู้กว้างขวาง มีบารมี และมีเครือข่าย เพื่อเป็นยันต์กันผี ทำให้หน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนเกิดความเกรงใจ หรือลำบากใจในการดำเนินมาตรการลงโทษ กรณีบริษัทจดทะเบียนที่กระทำความผิด หรือบริหารงานไม่โปร่งใส
พล.อ.อัครเดช ศศิประภา นายทหารผู้กว้างขวาง สมัยยังมีชีวิต เคยถูกตั้งให้เป็นประธานกรรมการบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง
ปัจจุบัน ยังมีนายทหาร และนายตำรวจนั่งเป็นประธานกรรมการบริษัทจดทะเบียนนับสิบๆ แห่ง
สำหรับ PPPM การที่ 2 นายพลทิ้งตำแหน่งประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร ถอนตัวออกจากความรับผิดชอบใดๆ ในบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันผลกระทบต่อชื่อเสียงที่จะตามมา
เพราะการที่บริษัทไม่สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดได้ ทำให้นักลงทุนได้รับความเสียหาย ถือเป็นความรับผิดชอบของกรรมการทุกคน
ยังไม่ต้องพูดถึงความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ขาดทุนย่อยยับจากหุ้น PPPM
ปมปัญหาทางการเงินภายใน จนนำไปสู่การขาดสภาพคล่อง และอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้ CFO หรือผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงินของบริษัทหลายต่อหลายคนลาออกไปก่อนหน้า จะเป็นต้นเหตุเดียวกันที่ทำให้ 3 กรรมการลาออกหรือไม่ เป็นประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชะตากรรม PPPM
ถ้าการลาออกเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นสามัญจะเป็นเพียงการสร้างบรรทัดฐานที่ดีของกรรมการบริษัทจดทะเบียน นักลงทุนคงไม่ต้องกังวลอะไรนัก
แต่ถ้าลาออกเพราะต้องการตัดตอนความรับผิดชอบจากปมปัญหาการบริหารงานภายใน หรือความไม่โปร่งใสในงบการเงิน จนผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบ นักลงทุนต้องระวัง
เพราะปัญหาที่แท้จริงของบริษัท อาจยังไม่ถูกเปิดโปงออกมาทั้งหมด
อย่าเพิ่งมั่นใจว่า การเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่ จะช่วยพลิกฟื้น PPPM ซึ่งผลดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปี
อย่าเพิ่งตามแห่เข้าไปลุยตัวนี้ ในเมื่อยังไม่มีคำตอบว่า ทำไม PPPM จึงใช้ CFO เปลือง ทำไมกรรมการบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้จึงอยู่กันไม่ได้ แห่กันโบกมือลา
