ตลาดรวมอสังหาฯ 6 เดือนแรกทรุดหนัก ติดลบ 13% พฤกษาฯ วอนรัฐผ่อนผันมาตรการ LTV เร่งออกมาตรการกระตุ้นตลาดครึ่งปีหลัง พร้อมปรับแผนลดลงทุนโครงการใหม่เหลือ 40 จากแผนเดิมเปิด 55 โครงการ ปรับลดยอดขายเหลือ 50,000 ล้านบาท จาก 54,000 ล้านบาท ลดรายได้เหลือ 45,000 ล้านบาท จากเป้า 47,000 ล้านบาท เผยครึ่งปีแรกรายได้ 19,662 ล้านบาท โต 3% กำไรสุทธิ 2,618 ล้านบาท เติบโต 8% จากปีก่อน

นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 62 นี้ มีมูลค่ารวม 99,841ล้านบาท หดตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มูลค่า 107,942 ล้านบาท 8% ขณะที่ครึ่งปีแรกมีมูลค่าขายรวมที่ 200,650 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีมูลค่าขายรวม 231,547 ล้านบาท หรือลดลง 13% ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา มียอดโอนอยู่ที่ 41,906 ล้านบาท ลดลงถึง 24% ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตลาดเกิดการชะลอตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมสินเชื่อใหม่ หรือ LTV และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ส่งผลให้กำลังซื้อลูกค้า และการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน รวมถึงผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศษรฐกิจ
“นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังส่งสัญญาณการออกเกณฑ์ควบคุมสินเชื่อรายย่อย หรือ DSR ซึ่งจะยิ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และตลาดในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะต่อเนื่องไปถึงปี 63 ทั้งนี้ เข้าใจว่ามาตรการ LTV ที่มีเป้าหมายเพื่อควบคุมกลุ่มผู้เก็งกำไร และนักลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อการเกิดฟองสบู่ในอนาคต แต่ LTV มีผลต่อกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ ที่มีแชร์ตลาดรวมถึง 40% ทำให้ตลาดหดตัวแรง หากรัฐบาลผ่อนผัน LTV และออกมาตรการกระตุ้นตลาดครึ่งหลังของปีนี้ เชื่อว่าจะช่วยให้ตลาดอสังหาฯ กลับมาขยายตัว และเป็นผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากมูลค่ารวมของอสังหาฯ คิดเป็น 12% ของจีดีพี” นายธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-ทาวน์เฮาส์ กล่าวเสริม
นางสุพัตรา กล่าวต่อว่า จากแนวโน้มตลาดดังกล่าว ทำให้ในช่วงครึ่งหลังของปี 62 นี้ บริษัทมีการปรับแผนการลงทุนโครงการใหม่ ปรับเป้ารายได้และยอดขายในปีนี้ลง โดยในช่วงครึ่งปีที่เหลือนี้จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 26 โครงการ มูลค่า 26,952 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ บ้านเดี่ยว 6 โครงการ และทาวน์เฮาส์ 16 โครงการ เมื่อนับรวมกับ 14 โครงการใหม่ที่เปิดไปในช่วง 6 เดือนแรกจะทำให้ในปีนี้มีการเปิดตัวโครงการใหม่รวม 40 โครงการคิดเป็นมูลค่ารวม 47,444 ล้านบาท จากแผนเดิมจะเปิดตัว 55 โครงการ มูลค่า 68,100 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทได้มีการปรับลดเป้ายอดขายในปี 62 ซึ่งเดิมที่วางไว้ 54,000 ล้านบาท ลงมาอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท และปรับลดเป้ารายได้จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 47,000 ล้านบาท มาอยู่ที่ 45,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดรับต่อสถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 นี้ บริษัทมียอดขายรวม 12,277 ล้านบาท เติบโตเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.1% ขณะที่ยอดขายใน 6 เดือนแรกอยู่ที่ 23,368 ล้านบาท ลดลง 4.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมียอดขายรวม 24,376 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมของ 6 เดือนแรกอยู่ที่ 19,662 ล้านบาท โต 3% และสามารถทำกำไรที่ 2,618 ล้านบาท เติบโต 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ในมือแล้ว 36,938 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปี 17,435 ล้านบาท ล่าสุด พฤกษา ได้พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 62 ให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท
นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 62 นี้ มีมูลค่ารวม 99,841ล้านบาท หดตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มูลค่า 107,942 ล้านบาท 8% ขณะที่ครึ่งปีแรกมีมูลค่าขายรวมที่ 200,650 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีมูลค่าขายรวม 231,547 ล้านบาท หรือลดลง 13% ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา มียอดโอนอยู่ที่ 41,906 ล้านบาท ลดลงถึง 24% ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตลาดเกิดการชะลอตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมสินเชื่อใหม่ หรือ LTV และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ส่งผลให้กำลังซื้อลูกค้า และการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน รวมถึงผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศษรฐกิจ
“นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังส่งสัญญาณการออกเกณฑ์ควบคุมสินเชื่อรายย่อย หรือ DSR ซึ่งจะยิ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และตลาดในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะต่อเนื่องไปถึงปี 63 ทั้งนี้ เข้าใจว่ามาตรการ LTV ที่มีเป้าหมายเพื่อควบคุมกลุ่มผู้เก็งกำไร และนักลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อการเกิดฟองสบู่ในอนาคต แต่ LTV มีผลต่อกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ ที่มีแชร์ตลาดรวมถึง 40% ทำให้ตลาดหดตัวแรง หากรัฐบาลผ่อนผัน LTV และออกมาตรการกระตุ้นตลาดครึ่งหลังของปีนี้ เชื่อว่าจะช่วยให้ตลาดอสังหาฯ กลับมาขยายตัว และเป็นผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากมูลค่ารวมของอสังหาฯ คิดเป็น 12% ของจีดีพี” นายธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-ทาวน์เฮาส์ กล่าวเสริม
นางสุพัตรา กล่าวต่อว่า จากแนวโน้มตลาดดังกล่าว ทำให้ในช่วงครึ่งหลังของปี 62 นี้ บริษัทมีการปรับแผนการลงทุนโครงการใหม่ ปรับเป้ารายได้และยอดขายในปีนี้ลง โดยในช่วงครึ่งปีที่เหลือนี้จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 26 โครงการ มูลค่า 26,952 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ บ้านเดี่ยว 6 โครงการ และทาวน์เฮาส์ 16 โครงการ เมื่อนับรวมกับ 14 โครงการใหม่ที่เปิดไปในช่วง 6 เดือนแรกจะทำให้ในปีนี้มีการเปิดตัวโครงการใหม่รวม 40 โครงการคิดเป็นมูลค่ารวม 47,444 ล้านบาท จากแผนเดิมจะเปิดตัว 55 โครงการ มูลค่า 68,100 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทได้มีการปรับลดเป้ายอดขายในปี 62 ซึ่งเดิมที่วางไว้ 54,000 ล้านบาท ลงมาอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท และปรับลดเป้ารายได้จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 47,000 ล้านบาท มาอยู่ที่ 45,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดรับต่อสถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 นี้ บริษัทมียอดขายรวม 12,277 ล้านบาท เติบโตเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.1% ขณะที่ยอดขายใน 6 เดือนแรกอยู่ที่ 23,368 ล้านบาท ลดลง 4.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมียอดขายรวม 24,376 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมของ 6 เดือนแรกอยู่ที่ 19,662 ล้านบาท โต 3% และสามารถทำกำไรที่ 2,618 ล้านบาท เติบโต 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ในมือแล้ว 36,938 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปี 17,435 ล้านบาท ล่าสุด พฤกษา ได้พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 62 ให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท