xs
xsm
sm
md
lg

JVC เปิดตัว J Loan Lite รุกกลุ่มล่าง ดึงผู้ถือ JFIN Coin รับส่วนแบ่งค่าฟี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจ เวนเจอร์ส เปิดตัว J Loan Lite ปล่อยกู้ผ่านแอปพลิเคชัน "ป๋า" โดยใช้ระบบ E KYC และ J Scoring เน้นกลุ่มรายย่อย-ไม่มีเอกสารทางการเงิน พร้อมเปิดโอกาสผู้ถือ JFIN Cion นำเหรียญมาฝากเป็น Stake เพื่อรับส่วนแบ่งรายได้ค่าฟี

นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้พัมนาระบบสินเชื่อดิจิทัลที่ไม่มีตัวกลาง JFIN DDLP (Decentralized Digital Lending Platform) บนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เสร็จสิ้น และพร้อมใช้งานแล้วในวันที่ 7 สิงหาคม 2562 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิมที่วางไว้ตาม Whilte Paper เมื่อตอนที่ออก ICO JFin coin ในเดือนตุลาคม พร้อมกันนั้น ได้เปิดตัวสินเชื่อ "J Loan Lite" ซึ่งเป็นสินเชื่อรูปแบบ B2P (Business to Person) ผ่านแพลตฟอร์ม "ป๋า มาร์เก็ตเพลส" (PAH Marketplace) ในแอปพลิเคชัน "ป๋า" (PAH) ของบริษัท

ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าของบริษัทที่เข้ามาขอสินเชื่อ "J Loan Lite"มผ่านแอปพลิชันป๋า ก็จะต้องผ่านขั้นตอนแรกคือ พิสูจน์ตัวตนผ่าน E-KYC เสร็จสิ้นแล้วก็จะต้องตอบแบบสอบถามเพื่อ J Scoring ซึ่งเราถือเป็นแห่งแรกที่ไม่ได้ใช้เอกสารทางการเงินเป็นหลักฐาน แต่จะเป็น Social Scoring ผนวกกับข้อมูลพฤติกรรมตามหลักจิตวิทยามารวบรวมวิเคราะห์เพื่อวัดหา "คนดี" ซึ่งหากผ่านก็จะได้รับการอนุมัติและนำเงินเข้าบัญชีให้ตามที่ลูกค้ากำหนดในอัตราดอกเบี้ย 15% ต่อปี และค่าธรรมเนียมการใช้แพลตฟอร์ม 30 บาท

"การปล่อยสินเชื่อของบริษัทไม่ได้เน้นไปในกลุ่มลูกค้าเดียวกับที่สถาบันการเงินต่างๆ ทำ เพราะลูกค้ากลุ่มนั้นแบงก์เขาปล่อยอยู่แล้ว ก็คงไม่ต้องการสินเชื่อของเรา และกลุ่มที่เราปล่อยจะเป็นลูกค้าใหม่ (Person) ที่ยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ขณะที่ลูกค้าที่สถาบันการเงินปล่อยส่วนใหญ่กลุ่มเดิมที่มีโปรไฟล์อยู่แล้วหรือ Customer ดังนั้น จึงต้องมีความระมัดระวังอยู่พอสมควร วงเงินปล่อยจึงยังต่ำ โดยในเบื้องต้นทดลอง 12 สัปดาห์แรกไม่เกิน 3,000 บาทต่อราย จำนวน 1,000 ราย เพื่อที่จะดูหนี้เอ็นพีแอลที่จะเกิดขึ้นก่อน ซึ่งหากอยู่ในระดับที่รับได้คือไม่เกิน 5% ก็จะเดินหน้าต่อ วงเงินก็จะเพิ่มขึ้นอีกเป็นประมาณ 5,000 บาทต่อราย เป็นต้น รวมถึงการขยายลูกค้าไปกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มที่ต้องการทำศัลยกรรมเพิ่มเสริมอาชีพ เช่น กลุ่มพริตตี้ เป็นต้น"

พร้อมกันนั้น บริษัทยังมีฟังก์ชันการทำงานที่จะให้ผู้ถือโทเคนดิจิทัล JFIN ได้นำเหรียญมาฝากเป็น Stake เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการแบ่งผลประโยชน์ที่ได้จากค่าธรรมเนียมในการใช้งานแพลตฟอร์มป๋าได้ เนื่องจากเงินที่นำมาพัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ ของเจ เวนเจอร์ส ก็มาจากการออกโทเคนดิจิทัล JFIN ซึ่งเชื่อว่าหากมีสัดส่วนตรงนี้สูงขึ้นก็จะทำให้ JFIN Cion มีสภาพคล่องและมีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย

นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะขยายสินเชื่อไปสู่กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็ก (Business to Business : BtoB) เนื่องจากผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าวในช่วงเริ่มต้นธุรกิจยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ จึงน่าจะเป็นกลุ่มที่บริษัทสามารถเข้าไปนำเสนอสินเชื่อได้ รวมถึงการปล่อยกู้แบบ P to P : Person to Person ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบใน Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
กำลังโหลดความคิดเห็น