xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดวัสดุก่อสร้างปี 62 ไม่สดใส คาด 1-2 ปีจะเห็นที่อยู่อาศัยขยายตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจของไทยถดถอยมาอย่างต่อเนื่องในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อเนื่องถึงภาคการผลิตในธุรกิจซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้าง แม้ว่ารัฐจะมีโครงการออกมา แต่ยังไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นตลาดในประเทศ โครงการภาคอสังหาฯ ในปีที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงปีนี้ เริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลง ธนาคารพาณิชย์เข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ขณะที่การส่งออกก็เจอผลกระทบทั้งจากเศรษฐกิจของคู่ค้าที่เติบโตลดลง ค่าเงินบาทที่เริ่มแข็งค่าต่อเนื่องประมาณ 20% และอุปสรรคเรื่องมาตรการภาษีในบางประเทศที่นำมาใช้กับสินค้าของไทย

ขณะที่ผู้นำในธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างของไทย อย่างบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ต้องปรับกลยุทธ์ในการสร้างมูลค่าของสินค้า การเพิ่มนวัตกรรมโปรดักต์ออกสู่ตลาดให้มากขึ้น

โดยนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCC สะท้อนสภาพตลาดในปีนี้ว่า ธุรกิจซีเมนต์ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เชื่อว่ายังคงเติบโตได้ต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก ที่ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศเติบโต 3% และคาดว่าจะเติบโตได้ 3-4% ในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้ทั้งปีการเติบโตจะอยู่ในระดับ 3-4% เป็นผลจากงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่ออกประมูลไปแล้วยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง

ส่วนตลาดซีเมนต์สำหรับที่อยู่อาศัย คาดว่าจะยังคงต้องใช้ระยะเวลา 1-2 ปีจึงจะเห็นการขยายตัว ซึ่งทำให้มีผลต่อตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศที่ยังอยู่ระดับทรงตัว ท่ามกลางตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่วนตลาดซีเมนต์ในอาเซียน ยังคงเห็นการเติบโตทั้งในกัมพูชา พม่า และเวียดนาม แต่ในตลาดอินโดนีเซีย ชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ด้านนายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์ COTTO, SOSUCO, CAMPANA กล่าวเสริมว่า ไตรมาส 2/62 มีรายได้จากการขาย 2,790 ล้านบาท ลดลง 5% จากไตรมาส 2/61 และลดลง 7% จากไตรมาส 1/62 โดยไตรมาส 2 ตลาดในประเทศเติบโตใกล้เคียงกับเป้าที่วางไว้ แต่ยอดขายหายจากยอดส่งออก

“ครึ่งปีแรก 2562 ผลกระทบมาตรการ LTV ทำให้การตัดสินใจซื้อบ้านชะลอตัวลง ขณะที่ไตรมาส 3/62 ยังไม่มีปัจจัยบวก โดยต้องรอไตรมาส 4/62 ที่คาดว่าตลาดจะกลับมาฟื้นตัว ดังนั้น เทรนด์ครึ่งปีหลังตลาดยังทรงๆ ตัว ในขณะที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐจะส่งผลบวกในปีถัดไปหรือปี 2563 เป็นช่วงรอยต่อไตรมาส 4/62 ไปจนถึงไตรมาสแรกปีหน้า”

ดังนั้น กลยุทธ์ที่สำคัญคือ เราต้องเน้นการรักษาและยกระดับมาตรฐานคุณภาพสินค้าให้อยู่ในใจผู้บริโภคอย่างยั่งยืน โดยทุกโรงงานที่เป็นฐานการผลิตของเอสซีจี เซรามิกส์ มีห้องปฏิบัติการทดสอบคุณภาพกระเบื้องที่ได้รับรองมาตรฐาน มอก.17025 (ISo/IEC-17025)

ในส่วนของธุรกิจค้าปลีก ค้าส่งวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน หลายฝ่ายอาจจะประเมินว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น และปัจจัยเรื่องภัยแล้งที่ทำให้ราคาพืชผลตกต่ำลง ชาวไร่ เกษตรกรจะมีกำลังซื้อน้อยลงจากรายได้ที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของ นายอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา กรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME กล่าวว่า การชะลอตัวของตลาดอสังหาฯ ไทยในปัจจุบัน ไม่กระทบต่อยอดขายมากนัก เพราะกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทเป็นกลุ่มซ่อมแซมและตกแต่งบ้านที่ยังคงเห็นการเติบโตที่ดีอยู่

ด้าน นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวสวนกระแสตลาด ว่า ในไตรมาส 3 นี้ ที่เป็นช่วงโลว์ซีซัน หรือช่วงนอกฤดูกาลขายของสินค้าวัสดุก่อสร้าง บริษัทจะเร่งเดินเครื่องจักรในทุกไลน์การผลิต เพื่อผลิตสินค้าในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งผลิตภัณฑ์กลุ่มระบบหลังคา กลุ่มไม้สังเคราะห์ และกลุ่มอิฐมวลเบา โดยมีเป้าหมายที่ต้องการเพิ่มระดับสต๊อกสินค้ารองรับการขายทุกผลิตภัณฑ์จาก 20 วันเฉลี่ยเพิ่มเป็น 30 วัน และบริหารจัดการด้านการขนส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น