นักวิเคราะห์หุ้นโบรกเกอร์หลายสำนักมีมุมมองโลกสวย ประเมินว่า แนวโน้มตลาดหุ้นครึ่งปีหลังสดใส แต่นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด เป็นอีกหนึ่งในนักวิเคราะห์ที่มีมุมมองตรงกันข้าม โดยคาดหมายว่า แนวโน้มตลาดหุ้นครึ่งปีหลังจะแย่ลง
เพราะการแถลงนโยบายของรัฐบาล ไม่ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น และนโยบายที่แถลงไม่แตกต่างจากเดิม ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในปีนี้อาจไม่เติบโต
บทสรุปของนายกวี สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นสิ้นปีนี้ ถ้าดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ปิดในระดับเท่ากับสิ้นปีก่อน ถือว่าดีมากแล้ว
ครึ่งปีแรก ดัชนีหุ้นปิดที่ 1,711.97 จุด เพิ่มขึ้น 1,48.09 จุด หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 9% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2561 ที่ดัชนีหุ้นปิดที่ระดับ 1,563.88 จุด
ความจริง 5 เดือนแรกปีนี้ ตลาดหุ้นอยู่ในภาวะซบเซา ดัชนีหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยสิ้นเดือนพฤษภาคมปิดที่ระดับ 1,620.22 จุด เพิ่มขึ้นจากต้นปีเพียงประมาณ 57 จุด หรือ 3% เศษเท่านั้น
แต่เดือนมิถุนายน ตลาดหุ้นเกิดความคึกคักขึ้นมา เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติแห่กลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้น โดยมียอดซื้อสุทธิรวมทั้งเดือน 46,945 ล้านบาท ผลักดันให้ดัชนีหุ้นสิ้นเดือนมิถุนายน พุ่งทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,730.34 จุด เพิ่มขึ้น 100.13 จุด เมื่อเทียบจุดปิดเดือนพฤษภาคม
ในเดือนกรกฎาคม แม้ต่างชาติยังซื้อสุทธิอยู่ แต่ยอดซื้อสุทธิลดลงเหลือเพียง 20,053 ล้านบาท และช่วงปลายเดือนเริ่มทยอยขายออกมาบ้าง
แม้ดัชนีหุ้นต้นเดือนกรกฎาคม จะพุ่งทะลุระดับ 1,750 จุด จนนักวิเคราะห์โบรกเกอร์หลายแห่ง แห่ขยับประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปี โดยประเมินว่าจะทะลุ 1,800 จุด แต่หลังจากนั้น ตลาดหุ้นเริ่มปรับฐานลง เพราะกองทุนรวมในประเทศกลับมาขาย
ขณะที่ต่างชาติซื้อน้อยลงหรือขายออกในบางช่วง
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นที่คึกคักช่วงต้นเดือนกรกฎาคม จนดัชนีจ่อทะลุ 1,800 จุด แต่ปลายเดือนกลับสู่ความซบเซาจนดัชนีหวิดหลุดระดับ 1,700 จุด โดยนักวิเคราะห์หุ้นประเมินว่า ตลาดหุ้นระยะสั้นมีแนวโน้มที่จะพักหรือปรับฐานลง
และสัญญาณร้ายหุ้นครึ่งปีหลังก่อตัวขึ้นแล้ว โดยปัญหาการเจรจาคลี่คลายสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนทำท่าจะไม่ราบรื่น
ต่างชาติที่โบรกเกอร์หลายแห่งประเมินว่า จะเข้ามาลงทุนต่อเนื่องนั้น ต่างชาติอาจไม่กลับมาก็ได้ ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ไม่มีสัญญาณข่าวดีใดๆ แม้รัฐบาลชุดใหม่จะเข้าบริหารประเทศแล้วก็ตาม
แต่ไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในสถานการณ์การเมือง และเสถียรภาพรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
การลงทุนในหุ้นอีก 5 เดือนที่เหลือ นักลงทุนต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะอาจเป็นไปด้วยความซบเซา ความเสี่ยงการลงทุนสูงขึ้น แต่โอกาสเก็บเกี่ยวกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นน้อยลง
ช่วงเวลาทำเงินในตลาดหุ้นปีนี้อาจผ่านพ้นไปแล้ว ส่วน 5 เดือนที่เหลือ เป็นช่วงที่ตลาดหุ้นอาจทรุดตัวกลับลงมา และต่างชาติที่ลุยซื้อหุ้นจนดัชนีพุ่งขึ้นมากว่า 100 จุดในช่วง 2 เดือนนั้น อาจพักรบ หยุดซื้อ หรือถ้านำหุ้นมาเทขายจะทำให้ตลาดหุ้นปักหัวลง
และราคาหุ้นปัจจุบันวิ่งมาแรงจนแซงหน้าปัจจัยพื้นฐานแล้ว กองทุนจะทยอยขาย ขณะที่ต่างชาติชะลอซื้อ
ย่างเข้าสู่เดือนสิงหาคมได้เพียง 2 วัน ตลาดหุ้นถูกถล่มจนร่วงหนัก ดัชนีหุ้นหลุดระดับ 1,700 จุด และอาจเป็นสัญญาณเตือนให้นักลงทุนรู้ว่า
อย่าผลีผลามช้อนหุ้น อย่าเพิ่มพอร์ตลงทุน เพราะ 5 เดือนหลัง หุ้นมีแนวโน้มเข้าสู่ช่วงขาลง
