xs
xsm
sm
md
lg

“คีรี” หลงกล IFEC / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


การเปิดซื้อขายหุ้นบริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ชั่วคราว เป็นโอกาสของผู้ถือหุ้นในการขายหุ้นทิ้ง และหนึ่งในผู้ถือหุ้นที่ชิงจังหวะเทขายคือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ของนายคีรี กาญจนพาสน์ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่

BTS ถือหุ้น IFEC จำนวนทั้งสิ้น 13 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 0.64% ของทุนจดทะเบียน และถือมานานหลายปี โดยคาดว่าต้นทุนน่าจะอยู่ประมาณหุ้นละ 6 บาท จึงเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ "ติดกับ" หุ้นตัวนี้

นายคีรี ยอมรับกับผู้ถือหุ้น BTS ถึงการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะคาดไม่ถึงว่า IFEC จะล่มสลาย โดยการเข้าไปลงทุนเนื่องจากประเมินว่า บริษัทมีอนาคต

การเปิดซื้อขายชั่วคราวหุ้น IFEC พร้อมกับอีก 15 หุ้น SP ระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคมที่ผ่านมา BTS ได้ทยอยขายหุ้น IFEC ออกจากพอร์ต และอาจล้างหุ้นตัวนี้จนเกลี้ยงพอร์ตไปแล้ว

ราคาหุ้น IFEC ระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม ต่ำสุดอยู่ที่ 21 สตางค์ สูงสุดที่ราคา 89 สตางค์ แต่ไม่ว่า BTS จะขายได้ในราคาไหนก็ต้องแบกขาดทุนอ่วมอยู่ดี โดยงานนี้อาจเสียหายจาก IFEC ไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท

เจ๊ง 70 ล้านบาท คงเป็นเรื่องใหญ่ของนักลงทุนทั่วไป แต่สำหรับ "คีรี" หรือพอร์ต BTS ในชั่วโมงนี้ถือเป็นเรื่องเล็ก ไม่ระคายพอร์ตลงทุนอันมหึมา

เรื่องเสียเงินนั้นคงไม่เท่าไหร่ แต่เสียเหลี่ยม สำหรับนายคีรี อาจต้องคิดหน่อย เพราะถูกจัดอยู่ในฐานะนักลงทุนชั้นเซียน เคยมีฉายาเจ้าพ่อหุ้น "ตี๋ย้ง" หรือบริษัท ธนายง จำกัด (TYONG) ในอดีต ก่อนจะกลายร่างเป็นหุ้น BTS

การลงทุนใน IFEC ของ BTS น่าจะเกิดขึ้นในช่วงที่ นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ เป็นประธานกรรมการบริษัท และได้ปรับโครงสร้างธุรกิจเข้าสู่พลังงานทางเลือก ทำให้เกิดการคาดการณ์ถึงผลประกอบการของบริษัทที่สดใส โดยนายคีรี คาดไม่ถึงว่า นายวิชัย จะนำ IFEC ไปสู่หายนะ

การที่ BTS ตกเป็นเหยื่อของ IFEC เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเก่งมาจากไหน เป็นเซียนหุ้นระดับใด ผ่านประสบการณ์การลงทุนมาโชกโชนเพียงใด แต่ทุกคนมีสิทธิถูก IFEC "กินเรียบ" โดยเท่าเทียมกัน

ผู้ถือหุ้นรายย่อย IFEC จำนวนกว่า 3 หมื่นราย จึงอย่าโทษตัวเองที่ตกเป็นเหยื่อของหุ้นตัวนี้ เพราะแม้แต่อดีตเซียนหุ้นอย่าง "คีรี" แม้แต่พอร์ต BTS ยังเสียมวย บาดเจ็บหนักเหมือนกัน

เพียงแต่ "คีรี" ตัดสินใจโบกมือลาจาก IFEC แล้ว ยอมตัดขาดทุนขาย ไม่ต้องจมทุกข์อยู่กับการรอคอยการฟื้นฟูกิจการ โดยที่ไม่อาจคาดหมายว่าอีกเมื่อไหร่หุ้นจะได้กลับมาซื้อขายใหม่อีกครั้ง

ส่วนผู้ถือหุ้นอีกกว่า 3 หมื่นราย ซึ่งยังทำใจตัดขายขาดทุนไม่ไหว และกอดหุ้น IFEC ไว้ ยังต้องทนทุกข์ต่อไป

ต้องเฝ้ารอว่า การกู้ซากความเสียหายที่กลุ่มนายวิชัย ก่อไว้จะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ และการแก้ปัญหาจะต้องใช้เวลาอีกยาวนานเพียงใด

การซื้อขายตลอดเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หุ้น IFEC ไม่ได้ส่งสัญญาณในเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นฟูกิจการแต่อย่างใด เพราะราคาฟุบลงต่อเนื่อง นับจากซื้อขายวันแรก ซึ่งถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 89 สตางค์

ถ้าแนวทางการฟื้นฟูกิจการราบรื่น แนวโน้มการแก้ปัญหาภายในสดใส น่าจะมีนักลงทุนขาใหญ่หรือมีอินไซเดอร์เข้ามาไล่ช้อนหุ้นเก็บกันแล้ว

แต่ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา มีแต่แรงขายทะลักเข้ามา ขายจนรับกันไม่อยู่ แสดงว่า การกู้ซาก IFEC ที่เสียหายยับเยินยุคนายวิชัย กลายเป็นงานยาก

ผู้ถือหุ้นต้องเตรียมใจ อดทนรออีกพักใหญ่ กว่า IFEC จะกลับมาแจ้งเกิดใหม่ ปิดซื้อขายวันที่ 31 กรกฎาคมแล้ว ไม่รู้ว่าจะรอยาวนานเพียงใดจึงกลับมาซื้อขายอีกครั้ง



กำลังโหลดความคิดเห็น