“ดูโฮม” รุกขยายฐานลูกค้าในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ลุยเปิด "Dohome To Go" ร้านค้าวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านครบวงจร ตั้งเป้าเปิด 90 สาขา ขณะที่สาขาขนาดใหญ่เปิดเพิ่มอีก 7 สาขา ภายในปี 64 คาดการเปิดสาขาเพิ่ม หนุนยอดขายมากกว่า 18,500 ล้านบาท
นายอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา กรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีก ค้าส่งวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต จำนวนครอบครัวขนาดเล็กเพิ่มขึ้น ที่อยู่อาศัยขนาดเล็กลง นิยมซ่อมแซมบ้านเอง หรือซื้อวัสดุให้ช่างซ่อม เพื่อให้สาขาของดูโฮมสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงสร้างการรับรู้แบรนด์ดูโฮมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล บริษัท จึงได้จัดตั้ง Dohome To GO ในรูปแบบที่เป็นสาขาขนาดเล็ก พื้นที่ประมาณ 300-1,000 ตารางเมตร โดยจะเปิดให้บริการในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า หรือซูเปอร์มาร์เกต เช่น แม็คโคร โลตัส และบิ๊กซี เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภครายย่อยใจกลางเมือง
โดยตั้งเป้าเปิดสาขา Dohome To GO ในปีนี้ 10 สาขา โดยเปิดไปแล้ว 2 สาขา คือ แม็คโคร สาขาจรัญสนิทวงศ์ และแม็คโคร สาขาสาทร และวางแผนการขยายสาขา Dohome To GO ให้ได้ 90 สาขา ภายในปี 2564 ทั้งนี้ การขยายสาขาจะเน้นไปที่ชุมชนที่มีประชากรอยู่อาศัยจำนวนมาก และจะต้องมีค่าเช่าไม่เกิน 400 บาท/ตารางเมตร/เดือน ซึ่งการลงทุนสาขาของ Dohome To Go เฉลี่ย 6,000 บาท/ตารางเมตร หรือเริ่มต้นที่สาขาละ 2 ล้านบาท
สำหรับสินค้าที่จะนำมาวางขายใน Dohome To Go จะมีประมาณ 10,000 รายการ โดยจะเน้นสินค้าในกลุ่มซ่อมแซมและตกแต่งบ้านเป็นส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มสินค้าที่ลูกค้าที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีความต้องการซื้อมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ลูกค้าสามารถสั่งซื้อวัดุก่อสร้างได้ เพื่อเป็นการใหิบริการที่ครบวงจรแก่ลูกค้าโดยใช้เครือข่ายสาขาของดูโฮมที่มีอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีสินค้าเฮาส์แบรนด์ของดูโฮมที่จะนำมาเสนอให้แก่ลูกค้าในสาขาของ Dohome To Go ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ลูกค้าจะได้ซื้อสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม โดยปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของบริษัทแบ่งออกเป็น กลุ่มลูกค้าทั่วไปกว่า 56% กลุ่มลูกค้าช่าง 25% กลุ่มลูกค้าประเภทร้านค้าช่วง 16% และที่เหลือเป็นกลุ่มลูกค้าราชการ
ด้านยอดขายในปี 2562 บริษัทมั่นใจว่าจะเห็นการเติบโตขึ้นจากปีก่อนที่ยอดขายทรงตัวอยู่ที่ 18,500 ล้านบาท โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นจะมาจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น และกระจายไปในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ เพิ่มมากขึ้นผ่านการขยายสาขาของ Dohome To Go ที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 80,000 บาท/ตารางเมตร/ปี ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนยอดขายในภาพรวมของดูโฮม จากเดิมที่บริษัทมีสาขาขนาดใหญ่ของดูโฮมที่เปิดให้บริการแล้ว 9 สาขา ได้แก่ อุบลราชธานี นครราชสีมา รังสิต ขอนแก่น อุดรธานี พระราม 2 บางบัวทอง เชียงใหม่ และบางนา โดยมีพื้นที่ขายและคลังสินค้า 35,000-65,000 ตารางเมตร/สาขา นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดสาขาขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าเปิดเพิ่มอีก 7 สาขา รวมเป็น 16 สาขาภายในปี 2564
สำหรับการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปัจจุบัน บริษัทมองว่าไม่กระทบต่อยอดขายมากนัก เพราะกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทเป็นกลุ่มซ่อมแซมและตกแต่งบ้าน ซึ่งยังมีความต้องการซื้อวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการซ่อมแซมและตกแต่งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดซ่อมแซมบ้านยังคงเห็นการเติบโตที่ดีอยู่ ส่วนการแข่งขันในตลาดของธุรกิจที่คล้ายคลึงกับบริษัทนั้นมองว่าแข่งขันไม่รุนแรง โดยที่ทำเลที่ตั้งสาขา กลุ่มลูกค้า และสินค้าที่ขายของร้านค้าคู่แข่งมีลักษณะที่แตกต่างกันในบางหมวดหมู่ ทำให้การแข่งขันในธุรกิจไม่รุนแรง
ส่วนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) ของ DOHOME ที่จะเสนอขายจำนวน 465,040,000 หุ้น ได้กำหนดราคาเสนอขายที่ 7.80 บาท/หุ้น พร้อมกับกำหนดระยะเวลาจองซื้อระหว่างวันที่ 25-26 และ 30-31 ก.ค.62 โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 6 ส.ค.นี้ ซึ่งจะนำเงินที่ได้จากการขาย IPO ไปใช้ลงทุนขยายสาขา ไปใช้เพื่อรองรับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของบริษัท ชำระเงินกู้สถาบันการเงินและภาระหนี้อื่นๆ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
