xs
xsm
sm
md
lg

"รมว.คลัง" ย้ำถึงเวลาปรับโครงสร้างภาษีประเทศ เตรียมหารือผู้เกี่ยวข้องถึงมาตรการลดหย่อนภาษี LTF

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"รมว.คลัง" ย้ำ ถึงเวลาไทยปรับโครงสร้างภาษีลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมย้ำนโยบายหาเสียงลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลง 10% เป็นเพียงการพูดถึงภาพรวม ด้านนักลงทุนยังมีลุ้น หลัง รมว.คลัง ระบุเตรียมหารือผู้เกี่ยวข้องถึงประโยชน์ LTF อีกครั้ง ก่อนตัดสินใจ ปีหน้าจะยกเลิกมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้ผู้ลงทุน LTF หรือไม่

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงโครงสร้างภาษีของประเทศไทยว่า ในปัจจุบันยังคงมีความเหลื่อมล้ำกันอยู่ โดยตัวอย่างที่ชัดเจนคือ ภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดาที่กำหนดอัตราจัดเก็บสูงสุดที่ 35% ขณะที่อัตราการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลอยู่ที่ 20% ดังนั้น จึงถึงเวลาปรับโครงสร้างภาษีของประเทศไทย และตนยอมรับว่าการปรับโครงสร้างภาษีนั้น จะมีผลทั้งในแง่ภาระภาษีของผู้เสียภาษีที่เพิ่มขึ้น และส่วนที่ทำให้ภาระภาษีของผู้เสียภาษีลดลง ส่วนแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีจะเป็นอย่างไรนั้น ยังต้องมีการพิจารณาถึงรายละเอียด โดยกระทรวงการคลังจะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงนโยบายหารเสียงของพรรคพลังประชารัฐ เรื่องการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลง 10% ว่า นโยบายของพรรคไม่ได้พูดถึงการลดภาษีโดยตรง

ส่วนการยกเลิกมาตรการสนับสนุนทางลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดมาตรการให้การสนับสนุนในสิ้นปี 62 นั้น นายอุตตม ระบุว่า ตนยังไม่พูดว่าจะดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้หรือไม่ เนื่องจากจะมีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะรวมถึงสมาคมตลาดทุนที่กำลังจะเข้ามาหารือกับตนในเร็วๆ นี้ เพื่อพิจารณาว่ามาตรการภาษี LTF ยังจะมีประโยชน์ทั้งกับตลาดทุนและตัวนักลงทุนเองในลักษณะใดบ้าง

นายอุตตม ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เวลานี้ประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจภายในประเทศในท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน จนกระทบต่อการส่งออกของประเทศที่เป็นเครื่องยนต์หลักในการผลักดันเศรษฐกิจ พร้อมทั้งย้ำด้วยว่า กระทรวงการคลัง กำลังเตรียมมาตรการดูแลเศรษฐกิจตั้งแต่เศรษฐกิจในระดับฐานรากจนถึงทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคการเกษตรจะต้องมีการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่มคุณภาพและผลผลิต รวมถึงวิสาหกิจชุมชน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับขีดความสามารถของประเทศ

ด้านการใช้จ่ายเงินเพื่อดูแลเศรษฐกิจนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลยังจำเป็นต้องดูแลเรื่องวินัยการเงินการคลังควบคู่ไปด้วย เนื่องจากถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ และหากภาคการคลังไม่เข้มแข็งแล้ว ประเทศไทยจะไม่มีแรงก้าวไปข้างหน้าได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ส่วนค่าเงินบาท มองว่า ยังมีหลายปัจจัยที่มากระทบกับค่าเงินซึ่งทำให้บาทแข็งและอ่อนลงได้ เช่น การเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ทำให้บาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ อีกทั้งการดูแลค่าเงินเป็นหน้าที่โดยตรงของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่ทั้งกระทรวงการคลัง และ ธปท. ก็จะมีการหารือกันอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว

นายอุตตม กล่าวถึงนโยบายของพรรคพลังประชารัฐในเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ถือเป็นนโยบายของพรรคในการขยายสิทธิประโยชน์ของผู้ถือบัตร และการให้บัตรสวัสดิการแก่คนจนยังถือเป็นกลไกที่สำคัญในการพัฒนาประเทศด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น