หุ้นไทยปิดลบ 9.13 จุด ตามตลาดภูมิภาค หลังกลับมากังวลสงครามการค้า ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า ส่งผลให้เงินทุนชะลอไหลเข้า แนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดตลาดคงจะปรับฐานในลักษณะซึมตัวลง
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันทั่วหน้า จากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน กลับมาอีกครั้ง จากที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่ม ขณะที่ตลาดฯ ก็ได้ตอบรับเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปพอควรแล้ว ซึ่งก็ต้องรอดูการประชุมเฟดในช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้
ทั้งนี้ ในช่วงสั้นคงจะต้องไปโฟกัสผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/62 ซึ่งดูแล้วผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ยังคาดเดาได้ยาก อย่างหุ้นในกลุ่มอาหาร และกลุ่มโรงไฟฟ้า ผลประกอบการคาดว่าจะออกมาดี แต่ก็ได้สะท้อนไปที่ราคาหุ้นแล้ว ส่วนผลประกอบการของกลุ่มปิโตรเคมีงวดไตรมาส 2/62 คาดว่าจะอ่อนแอ ซึ่งก็อาจจะไปกดดันตลาดฯ ได้ ดังนั้น ช่วงสั้นจึงได้เห็นการชะลอการลงทุนของหุ้นขนาดใหญ่ และหันไปเล่นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง และเล็กแทน
นอกจากนี้ ตลาดฯ ได้ตอบรับปัจจัยบวกไปพอควรแล้ว และขณะนี้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ลักษณะนี้ทำให้เงินทุนชะลอไหลเข้าตลาดฯ
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,718.85 จุด ลดลง 9.13 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.53% มูลค่าการซื้อขาย 62,632.00 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.) นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะปรับฐานในลักษณะซึมตัวลง โดยให้แนวรับ 1,705-1,680 จุด ส่วนแนวต้าน 1,750 จุด