“เอซ เอสเตท กรุ๊ป” อสังหาฯ รายเล็กรุกตลาดคอนโดในเมือง เปิดตัว “อาทิ สุขุมวิท 71” ไม่หวั่นตลาดชะลอตัว มั่นใจทำเลมีศักยภาพทางลัดสู่ทองหล่อ-เอกมัย ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท มูลค่า 525 ล้านบาท ดึง “พลัส พร็อพเพอร์ตี้” ช่วยบริหารงานขาย
นายณัฐพล จินตนา กรรมการบริหาร บริษัท เอซ เอสเตท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เอซ เอสเตท เกิดจากพันธมิตรธุรกิจ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเอ็นริช ดีเวลลอปเม้นท์ กลุ่มโชคสว่างเคหะการ และแอนต้า ดีเวลลอปเม้นท์ ในสัดส่วนที่เท่ากัน ซึ่งพันธมิตรล้วนมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งเอซ เอสเตท วางแผนจะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงเฉลี่ยปีละ 1-2 โครงการ โดยที่ผ่านมาได้ร่วมลงทุนพัฒนาโครงการแรกภายใต้ชื่อ “คูน ราชพฤกษ์” ที่ประสบความสำเร็จ สามารถปิดการขายภายใน 1 ปี
ล่าสุด ได้เปิดขายโครงการ อาทิ สุขุมวิท 71 ‘Arti Sukhumvit 71’ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 300 ตารางวา เป็นคอนโดมิเนียมแบบ High rise สูง 21 ชั้น ขนาด 20.25-134.75 ตารางเมตร ราคา 1.89-18.8 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ 93,000 บาท/ตารางเมตรขึ้นไป จำนวนเพียง 115 ยูนิต มูลค่าโครงการ 525 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ อายุ 28-40 ปี หรือกลุ่ม Young Adult โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 20-21 กรกฎาคม 2562 นี้
ทั้งนี้ บริษัทได้มอบหมายให้บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขาย คาดว่าภายใน 2 วันนี้จะสามารถทำยอดขายได้ 50% และปิดการขายได้ภายในสิ้นปีนี้ ด้านการก่อสร้างจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 และมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 อย่างไรก็ตาม ภายในต้นปี 2563 บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะพัฒนาโครงการแนวราบในย่านกาญจนาภิเษก อีก 1 โครงการ
ด้าน น.ส.สมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า สำหรับโครงการ ‘Arti Sukhumvit 71’ ตั้งอยู่ ซ.ปรีดี พนมยงค์ 36 ซึ่งใกล้เส้นทางลัดไปยัง ซ.เอกมัย ทองหล่อได้ ทำให้เป็นคอนโดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชอบใช้ชีวิตในเมืองที่ต้องการความสะดวกสบายในราคาที่เอื้อมถึง จึงเหมาะกับทั้งกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงหรือการซื้อเพื่อลงทุนเอง เห็นได้จากชาวต่างชาติที่เริ่มเข้ามาอยู่ในบริเวณนี้มากขึ้นเพราะค่าครองชีพที่ถูกกว่าพร้อมพงษ์-ทองหล่อ แต่สามารถเดินทางด้วย BTS ได้อย่างสะดวกสบายเทียบเท่ากับในเมือง ด้วยศักยภาพของทำเลนี้จึงสามารถดึงดูดดีมานด์ได้แน่นอน ทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ โดยตั้งเป้าสัดส่วนของลูกค้าไทยและลูกค้าต่างชาติที่ 80:20
โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่ม Young Adult อายุประมาณ 28-40 ปี ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่วัยทำงานที่ออฟฟิศอยู่ในเมือง จึงต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางและการใช้ชีวิต จึงมี Facility ที่ครบครัน ที่สำคัญสุดคือ การตั้งราคาที่กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้ โดยวางกลุ่มเป้าหมายเป็นคนซื้ออยู่อาศัยเอง 70% และซื้อลงทุน 30%
น.ส.สมสกุล กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินทำเลสุขุมวิท 71 ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2561 ราคาที่ดินเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 450,000 บาทต่อตารางวา หรือปรับขึ้น 60% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หรือเติบโตขึ้นเฉลี่ยกว่า 13% ต่อปี ราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นมีผลทำให้คอนโดฯ ในย่านนี้มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยพบคอนโดฯ ที่ขายในโซนนี้ราคาเติบโตขึ้นเฉลี่ย 11% ต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ ทั้งในแง่การซื้ออยู่เองที่จะได้โครงการที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต หรือซื้อเพื่อลงทุนก็มีแนวโน้มจะได้ผลตอบแทนที่ดีจากส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นทุกปีเช่นเดียวกัน
สำหรับราคาขายคอนโดฯ โซนสุขุมวิท 71 พบว่า ระดับราคาที่ 100,000-150,000 บาทต่อ ตร.ม. จะขายได้ดีสุด โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อัตราการขายโครงการใน Segment นี้สูงกว่าอัตราการขายเฉลี่ยรวมในพื้นที่ เนื่องจากไม่มีโครงการเปิดใหม่และโครงเก่าขายได้เกือบทั้งหมด โดยยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 95% ส่วนในด้านผลตอบแทนการลงทุนก็น่าสนใจเช่นกัน โดยการปล่อยเช่าที่มีดีมานด์จากทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ในโซนนี้มีอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Rental Yield) เฉลี่ย 5-7%
