xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นกู้ “เมืองไทย แคปปิตอล” 5 พันล้านขายเกลี้ยง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หุ้นกู้ "เมืองไทย แคปปิตอล" 3 ชุด วงเงินไม่เกิน 5 พันล้านบาท ได้รับการตอบรับคึกคัก นักลงทุนแห่จองซื้อ ขณะที่ความต้องการล้นเกินวงเงินที่เสนอขาย ผู้บริหารประเมินนักลงทุนสนใจเพราะผลตอบแทนสูง จากอัตราดอกเบี้ยระดับ 3.40-4.00% ต่อปี รวมทั้งเชื่อมั่นการดำเนินธุรกิจ อนาคตเติบโตได้ต่อเนื่อง พร้อมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนรองรับแผนปล่อยกู้สิงห์นักบิด หนุนธุรกิจติดปีก

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 4/2562 ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้หุ้นกู้วงเงิน 5 พันล้านบาท ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน เมื่อวันที่ 8-10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและมีนักลงทุนได้ติดต่อขอซื้อสูงเกินวงเงินที่กำหนดเสนอขายไว้อย่างมาก

"การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ยังคงได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ลงทุน โดยมีความต้องการสูงเกินวงเงินที่เสนอขาย น่าจะเป็นเพราะผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ดี และสูงกว่าการฝากเงินกับสถาบันการเงิน โดยมีการจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ขณะเดียวกันมีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งมีแนโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในปัจจุบัน และอนาคต" นายชูชาติกล่าว

ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าว แบ่งเป็นหุ้นกู้อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.40%, อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.80% ต่อปี และอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทหลักทรัพย์ภัทร

สำหรับแผนการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินไปใช้สำหรับรองรับแผนขยายธุรกิจ ซึ่งมั่นใจว่าฐานสินเชื่อในปีนี้จะเติบโตอย่างน้อย 30% ตามแผนงานที่วางไว้ ส่งผลให้รายได้และกำไรในปีนี้สร้างสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง

อนึ่ง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ที่ระดับ "BBB+" พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 5 พันล้านบาทของบริษัทฯ ที่ระดับ "BBB+" ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานที่ยั่งยืนในการเป็นผู้นำในตลาดของผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ การให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักประกัน รวมไปถึงความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด คุณภาพของสินทรัพย์ที่ได้รับการควบคุมเป็นอย่างดี แหล่งเงินทุนที่มีความหลากหลายมากขึ้นและสภาพคล่องในระดับที่เพียงพอ


กำลังโหลดความคิดเห็น