ซีอีโอสตางค์ คอร์ปอเรชั่นประเมินแนวโน้มลิบรามาแน่ แต่ช่วงแรกอาจเปิดเฉพาะกลุ่ม แนะสรรพากรคุยแชร์ข้อมูลค้า เก็งบิทคอยน์รอบนี้ทะลุ 2หมื่นดอลล์รับแรงหนุนลิบรา
นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้ง TDAX แพลตฟอร์มให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล และ ซีอีโอ สตางค์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยถึงกรณีที่เฟซบุ๊กประกาศพัฒนาสกุลเงินลิบรา คอยน์ ( Libra ) เพื่อนำมาใช้เป็นสกุลเงินดิจิทัลในปี 2563ว่า ในส่วนของประเทไทยนั้น เบื้องต้นน่าจะเป็นการทดลองเปิดให้คนบางกลุ่มหรือบางพื้นที่ใช้ลิบราคอยน์ก่อน เป็นกลุ่มทดลอง ซึ่งไม่กระทบกับความมั่นคงของประเทศ เช่น กลุ่มผู้ค้าออนไลน์ จากนั้นนำผลที่ได้มาประมวลเพื่อปรับใช้ในวงกว้างต่อไป ซึ่งเชื่อว่าหน่วยงานกำกับของไทยทั้งภาคการเงินและความมั่นคงจะสามารถหาวิธีการดูแลได้ ขณะที่กรมสรรพากรซึ่งมีหน้าที่จัดเก็บรายได้ก็อาจจะต้องเข้าไปดูแล ร่วมกับเฟชบุ๊ก เพื่อใช้ประโยขน์ในการบริหารจัดการด้านข้อมูลร่วมกัน
นายปรมินทร์กล่าวอีกว่า แนวทางในการรับมือนั้น จะเห็นได้ว่าบางประเทศก็เปิดอย่างเต็มที่อย่างสิงคโปร์ บางประเทศก็ปิดเลนอย่างจีน แต่สำหรับไทยแล้วแนวทางที่เป็นไปได้ ไม่น่าเป็นการปิดกั้นหรือแบนไปเลย เชื่อว่าหน่วยงานกำกับของเราคงหาวิธีรับมือลิบราคอยน์ได้ และคงจะสามารถผ่อนปรนข้อกังวลที่เคยมีอยู่ได้บ้าง เพราะสุดท้ายเมื่อเฟชบุ๊กออกลิบรา คอยน์มาใช้ คนก็ต้องเลือกใช้สิ่งที่ดีที่สุด แล้วในอนาคตมีโอกาสที่จะมี วีแชท ไลน์ หรือบริษัทขนาดใหญ่ออกเงินดิจิทัลของตัวเองได้เช่นกัน ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเรื่องปกติ เหมือนกับการรับฝากถอนกู้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งหากถึงตรงนั้นแล้วยังไม่มีการดูแล ก็จะทำให้ควบคุมยิ่งทำได้ยาก รวมถึงผลกระทบกับธนาคารพาณิชย์ด้วย
**คาดบิทคอยน์ทะลุ2หมื่นดอลล์**
ด้านแนวโน้มตลาดเงินดิจิทัล หลังเฟชบุ๊กประกาศเปิดตัวลิบราคอยน์ในปี2563 ซึ่งมีพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายมาร่วมด้วยนั้น เป็นปัจจัยมีความน่าเชื่อถือและเป็นไปได้มากขึ้น และทำให้การซื้อขายเงินดิจิทัลโดยเฉพาะบิทคอยน์มีโอกาสขยายตัวมากขึ้น มีความเป็นไปได้ราคาบิทคอยน์จะปรับตัวทะลุ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯได้
"มูลค่าเงินลิบราคอยน์จะมีไม่น้อยกว่า1,000ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่มูลค่าเงินบิทคอยน์ทั้งตลาดอยู่ที่ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ในอนาคตมูลค่าเงินลิบราคอยน์อาจมีโอกาสแซงหน้าเงินบิทคอยน์ จากคนที่ใช้งานเฟชบุ๊กกว่า24, 000 ล้านคนทั่วโลกและพันธมิตรที่ร่วมมือกัน เพราะ จากปัจจุบันมีจำนวนคนที่ใช้เงินดิจิทัลอยู่กว่า 30 ล้านคน"