หุ้นบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC อยู่ในสภาพสลบเหมือด ยืนนิ่งที่ระดับ 1 สตางค์ ตลอด 7 วันทำการซื้อขายครั้งสุดท้าย แม้ฝ่ายบริหารบริษัทฯ จะยื่นศาลปกครอง ขอคุ้มครองชั่วคราวและขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกเลิกคำสั่งเพิกถอนการเป็นบริษัทจดทะเบียน แต่ราคาหุ้นไม่ตอบรับใดๆ
IEC เป็นบริษัทจดทะเบียน 1 ใน 3 บริษัทที่จะถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิกถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ โดยการเปิดซื้อขายครั้งสุดท้ายระหว่างวันที่ 1-9 กรกฎาคม เป็นหุ้นเพียงตัวเดียวที่ราคาไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
เปิดการซื้อขายวันแรกกระทั่งปิดการซื้อขายวันสุดท้าย ราคาเสมอต้นเสมอปลายอยู่ที่ 1 สตางค์เท่านั้น ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง โดยวันแรกซื้อขายกันกว่า 8 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นซื้อขายเพียงประมาณวันละ 1 ล้านบาทหรือต่ำกว่า
การยื่นศาลปกครอง ขอความคุ้มครองชั่วคราว กรณีถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิกถอนออกจากตลาดหุ้น แม้ศาลรับคำร้องของ IEC แต่ไม่รู้ว่า เมื่อคดีถึงสิ้นสุดแล้ว คำตัดสินของศาลปกครองจะออกมาอย่างไร
IEC เป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกที่ใช้สิทธิพึ่งศาลปกครอง และเชื่อว่า บริษัทจดทะเบียนอื่นที่กำลังจะถูกเพิกถอน คงจะติดตามกรณีของ IEC เพราะถ้า IEC ชนะคดี บริษัทจดทะเบียนอื่นคงใช้บริการของศาลปกครองตามมา
การเพิกถอนบริษัทจดทะเบียนออกจากตลาดหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีข้อกำหนดชัดเจน โดยหากไม่ส่งงบการเงิน หรือส่งงบการเงินล่าช้าเกิน 6 เดือน หรืองบการเงินที่ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นว่า งบการเงินไม่ถูกต้อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศเป็นบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ขึ้นเครื่องหมาย NC พักการซื้อขายหุ้น
และกำหนดเงื่อนเวลาในการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนภายใน 1 ปี ถ้าแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนไม่ได้ จะดำเนินมาตรการเพิกถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน แต่บริษัทจดทะเบียนสามารถยื่นคำขอขยายเวลาการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนได้ 1 ครั้ง ภายในเวลาไม่เกิน 1 ปี
สรุปแล้วบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน มีเวลาประมาณ 2 ปี ในการแก้ไขปัญหางบการเงิน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เพียงพอแล้ว
ถ้ายังแก้ไม่ได้ ถือว่าสมควรแก่เวลาที่จะถูกเชิญออกจากตลาดหุ้น
ก่อนหน้า IEC ดูเหมือนจะรอดแล้ว เพราะเมื่อปลายปี 2560 ได้เรียกชำระหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 2.03 แสนล้านหุ้น ซึ่งจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 1.25 สตางค์ มีผู้ใช้สิทธิจองซื้อทั้งสิ้น 1.36 แสนล้านหุ้น ระดมทุนได้ทั้งสิ้น 1,702.80 ล้านบาท
แต่มีผู้ถือหุ้นร้องคัดค้านการเพิ่มทุน และนายทะเบียนไม่รับจดทะเบียนหุ้นเพิ่มทุน ทำให้บริษัทต้องคืนเงินผู้ถือหุ้นที่จองซื้อ พร้อมอัตราดอกเบี้ย 1.40% ต่อปี ส่งผลกระทบต่อแผนฟื้นฟูการดำเนินงาน
ผู้ถือหุ้นรายย่อย IEC มีจำนวนทั้งสิ้น 25,288 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 87.15% ของทุนจดทะเบียน โดยเป็นอีกบริษัทจดทะเบียนที่มีนักลงทุนติดค้างอยู่เป็นจำนวนมาก
การขอความคุ้มครองชั่วคราวจากศาลปกครอง และขอให้ยกเลิกคำสั่งเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น แม้คำร้องของ IEC จะได้รับตอบสนองจากศาลปกครอง และยังดำรงฐานะการเป็นบริษัทจดทะเบียนต่อไป แต่แทบไม่ส่งผลดีอย่างไรต่อผู้ถือหุ้น
เพราะหุ้นยังถูกพักการซื้อขายต่อไป หากยังไม่สามารถแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนได้ และไม่สามารถฟื้นฟูผลประกอบการ เพื่อให้กลับมามีคุณสมบัติการเป็นบริษัทจดทะเบียนอีกครั้ง
ภารกิจสำคัญของฝ่ายบริหาร IEC หรือกลุ่มนายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ อยู่ที่การแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอน และการฟื้นฟูผลดำเนินงานให้กลับมามีกำไร เพื่อนำหุ้นกลับมาซื้อขาย
เพราะ 7 วันทำการที่เปิดให้ซื้อขายเป็นครั้งสุดท้าย หุ้น IEC ซื้อขายกันอย่างไร้อนาคต
และแม้ผู้ถือหุ้นทำใจยอมตัดขายขาดทุนป่นปี้ ตั้งขายเพียง 1 สตางค์แล้วก็ตาม แต่ไม่มีคนเคาะซื้อ เพราะไม่เห็นอนาคตหุ้นตัวนี้