xs
xsm
sm
md
lg

ลาทีหุ้น IEC - LVT - YNP / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นับถอยหลังอีกเพียง 1 วันทำการเท่านั้น หุ้นบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC หุ้นบริษัท แอล.วี. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ LVT และหุ้นบริษัท ยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ YNP จะ ปิดการซื้อขายอย่างถาวร ก่อนถูกเพิกถอน ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้

ทั้ง 3 บริษัท ไม่สามารถแก้ไขเหตุแห่งการถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน ภายในเวลาที่กำหนด ต้องถูกขับออกจากตลาดหุ้น โดยตลาดหลักทรัพย์อนุมัติให้เปิดซื้อขายครั้งสุดท้าย ระหว่างวันที่ 1-9 กรกฎาคมนี้ รวม 7 วันทำการ โดยซื้อขายกันไปแล้ว 5 วันทำการ

บรรยากาศการซื้อขายหุ้นทั้ง 3 บริษัท ซบเซาตามความคาดหมาย แตกต่างจาก 16 หุ้น SP ที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดให้กลับมาซื้อขายชั่วคราวระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม ซึ่งหลายตัวมีการเก็งกำไรอย่างคึกคัก มูลค่าซื้อขายช่วงแรกวันละหลายร้อยล้านบาท ขณะที่ราคาขึ้นลงอย่างร้อนแรง

แต่ IEC, LVT และ YNP มูลค่าซื้อขายน้อยมาก วันละไม่กี่ล้านบาท แม้บางตัวราคาหุ้นจะพุ่งขึ้นอย่างหวือหวาก็ตาม

การเปิดซื้อขายครั้งสุดท้าย ก่อนเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นทั้ง 3 บริษัท ตัดสินใจว่าจะขายหุ้นทิ้งหรือถือหุ้นต่อไป แต่เมื่อเปิดการซื้อขายจริง ผู้ถือหุ้นกลับไม่สามารถขายหุ้นตามที่ต้องการ เพราะแทบไม่มีแรงซื้อเข้ามา

IEC ราคาปิดครั้งสุดท้ายก่อนถูกแขวน SP อยู่ที่ 2 สตางค์ กลับมาซื้อขายเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม เปิดที่ราคา 1 สตางค์ และตลอด 5 วันทำการ ยืนอยู่ที่ 1 สตางค์เพียงราคาเดียว จะซื้อหรือขายที่ราคา 1 สตางค์เท่านั้น มูลค่าการซื้อขายวันแรกอาจจะมากหน่อย มีประมาณ 8 ล้านบาท แต่หลังจากนั้น มูลค่าการซื้อขายส่วนใหญ่เฉลี่ยวันละ 1 ล้านบาท

ส่วน LVT ยังมีสีสันของการเก็งกำไร โดยราคาปิดครั้งสุดท้ายก่อนถูกแขวน SP ยืนอยู่ที่ 29 สตางค์ และเปิดการซื้อขายวันที่ 1 กรกฎาคมที่ 1 สตางค์ ระหว่างวันขึ้นไปสูงสุดที่ 2 สตางค์ ก่อนลงมาปิดที่ 1 สตางค์ แต่วันต่อมาถูกลากขึ้นไปปิดที่ 2 สตางค์ วันที่ 3 กรกฎาคมปิดที่ 3 สตางค์ จนวันที่ 5 กรกฎาคม ลงมาปิดที่ 2 สตางค์ อย่างไรก็ตาม มูลค่าการซื้อขายไม่มีนัยสำคัญมากนัก เพราะเคาะซื้อขายเฉลี่ยวันละ 1 ล้านบาทเท่านั้น

ขณะที่หุ้น YNP เป็นหุ้นร้อนที่สุด ราคาปิดครั้งสุดท้ายก่อนถูก SP ยืนอยู่ที่ 66 สตางค์ และเปิดการซื้อขายใหม่ที่ 1 สตางค์ ก่อนถูกลากขึ้นไปสูงสุดระหว่างวันที่ 8 สตางค์ และกลับลงมาปิดที่ 5 สตางค์ มูลค่าซื้อขาย 7 ล้านบาทเศษ

YNP ปิดที่ 5 สตางค์ 4 วันทำการ กระทั่งวันที่ 5 กรกฎาคม จึงขยับขึ้นมาปิดที่ 6 สตางค์ โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 ล้านบาทต่อวัน

จำนวนผู้ถือหุ้น IEC, LVT และ YNP รวมกันทั้งสิ้นกว่า 3 หมื่นราย ซึ่งทั้งหมดเหมือนถูกขังอยู่ในบริษัทจดทะเบียนทั้ง 3 แห่ง เพราะแม้อยากจะหนีออก ต้องการจะขายหุ้นทิ้ง แต่ไม่มีคนซื้อ

อวสานของบริษัทจดทะเบียนทั้ง 3 แห่ง หมายถึงหายนะของนักลงทุนจำนวนกว่า 3 หมื่นราย เพราะเสียหายย่อยยับกับการลงทุน และหลังออกจากตลาดหุ้นแล้ว ไม่อาจคาดหมายได้ว่า ชะตากรรมจะเป็นอย่างไร จะฟื้นฟูผลการดำเนินงานได้หรือไม่

หรือว่าออกไปตายอย่างเงียบๆ นอกตลาดหุ้น

ความเสียหายที่หุ้น IEC, LVT และ YNP สร้างไว้ เป็นโศกนาฏกรรมที่ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องพิจารณาทบทวนนโยบายการรับหุ้นใหม่

อย่ามุ่งในเชิงปริมาณ อย่าเกรงใจบริษัทที่ยื่นเข้าจดทะเบียน แต่ต้องคำนึงถึงการปกป้องผลประโยชน์นักลงทุน ไม่ปล่อยหุ้นเน่าเข้ามาในตลาดหุ้น และสร้างความเสียหายเหมือน 3 บริษัทจดทะเบียนที่กำลังถูกตะเพิดออก

กรณี IEC, LVT และ YNP ควรเป็นบทเรียนสำคัญของนักลงทุน จะซื้อหุ้นตัวใด ต้องศึกษาพฤติกรรมตัวหุ้น ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียนให้รอบคอบ ไม่มั่นใจว่าเป็นกิจการที่ดี อย่าเข้าไปแตะตั้งแต่ต้น

ส่วนผู้ถือหุ้น IEC, LVT และ YNP สายเกินไปแล้วที่จะแก้ไขอะไรแล้ว กลายเป็นนักลงทุนที่ต้องเซ่นสังเวยหุ้นเน่าที่ตลาดหลักทรัพย์อนุมัติรับเข้ามา

และที่สำคัญ ยังมีหุ้นเน่าที่อาจพบจุดจบเช่นเดียวกับ IEC, LVT และ YNP อีกนับสิบนับร้อยอยู่ในตลาดหุ้น รวมทั้ง 16 หุ้น SP ที่จะซื้อขายจนถึงสิ้นเดือนนี้ด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น