บรรยากาศการซื้อขาย 16 หุ้น SP คึกคักเกินความคาดหมาย ราคาขึ้นลงอย่างหวือหวาวันเดียวหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ จนนักเก็งกำไรอดใจไม่ไหว กระโดดร่วมวงแลกหมัดวัดดวงชนิดลืมตาย
ในจำนวน 16 หุ้น SP ที่กลับมาซื้อขายชั่วคราว หุ้นที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือ หุ้นบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC และหุ้นบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH
เพราะเป็นหุ้นตัวใหญ่ เคยเป็น หุ้นเก็งกำไรยอดนิยม มีข่าวอย่างต่อเนื่อง และมีความเคลื่อนไหวของฝ่ายบริหารและผู้ถือหุ้นทั้ง 2 บริษัท เรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์ระงับการเปิดให้ซื้อขายชั่วคราว
ทั้ง IFEC และ EARTH ไม่ทำให้คนที่รอคอยผิดหวัง เพราะทันทีที่เปิดซื้อขายเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา นักลงทุนเคาะกันสนั่นหวั่นไหว โดย IFEC เปิดที่ 21 สตางค์ ก่อนไล่ไปสูงสุดที่ 89 สตางค์ และปิดที่ 88 สตางค์ มูลค่าซื้อขาย 691.53 ล้านบาท
จากราคาเปิดเทียบกับราคาปิด ภายในวันเดียวหุ้น IFEC ปรับตัวพุ่งขึ้นกว่า 300% ใครใจกล้าเคาะซื้อไว้ในราคาเปิด รวยไม่รู้เรื่อง
ส่วน EARTH เปิดซื้อขายที่ราคา 36 สตางค์ ขึ้นไปสูงสุดที่ 53 สตางค์ และปิดที่ 51 สตางค์ มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 382.73 ล้านบาท โดยความเคลื่อนไหวของราคาระหว่างวันไม่แกว่งตัวมากนัก
สำหรับ 14 หุ้น SP ที่เหลือ แม้ราคาจะขึ้นลงวูบวาบ แต่มูลค่าซื้อขายไม่หนาแน่นเหมือน IFEC และ EARTH
ผ่านพ้นการซื้อขายวันแรกไปแล้ว 16 หุ้น SP น่าจะลดความร้อนแรงลง แต่ปรากฏว่า ในวันที่ 2 กรกฎาคมหรือวันที่ 2 ของการซื้อขาย หุ้นหลายตัวกลับ “ติดเครื่อง” นักลงทุนแห่เก็งกำไรกันฝุ่นตลบ จนราคาพุ่งขึ้นชนเพดาน 30% กันถึง 5 ตัว ประกอบด้วย
EARTH ปิดที่ 66 สตางค์ เพิ่มขึ้น 15 สตางค์หรือเพิ่มขึ้น 29.41%
หุ้น บริษัท เคเทค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTECH ปิดที่ 22 สตางค์ เพิ่มขึ้น 5 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 29.41%
หุ้นบริษัท โปรเพสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) หรือ PRO ราคาปิดที่ 45 สตางค์ เพิ่มขึ้น 10 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 28.67%
หุ้นบริษัท เค.ซี. พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC ราคาปิดที่ 41 สตางค์ เพิ่มขึ้น 9 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 28.12%
และหุ้นบริษัท ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง จำกัด (มหาชน) หรือ STHAI ปิดที่ 2 สตางค์ เพิ่มขึ้น 1 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 100%
ราคาหุ้น SP หลายตัวยั่วยวนให้เก็งกำไรจริงๆ แต่ใครที่คิดจะเล่น ต้องถามใจตัวเองว่า กล้าพอไหม มีข้อมูลมากพอที่จะเข้าไปลุยหรือไม่ และภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะพักการซื้อขายหุ้น SP ทั้ง 16 ตัวอีกครั้ง จะขายออกทันหรือไม่
เพราะถ้าขายไม่ทัน หาจังหวะทำกำไรไม่ได้ พลาดพลั้ง “ติดหุ้น” ไว้ จะต้องทำใจถือยาว โดยไม่รู้ว่าหุ้นจะกลับมาซื้อขายใหม่อีกเมื่อไหร่ หรืออาจไม่มีโอกาสกลับมาซื้อขายอีกเลยก็ได้ เพราะเป็นหุ้นอยู่ในข่ายอาจถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นทั้งสิ้น
มูลค่าการซื้อขายหุ้น SP ทั้ง 16 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นการซื้อขายในหมู่ผู้ถือหุ้นเดิมด้วยกัน หรืออาจเป็นการซื้อขายระหว่างผู้ถือหุ้นใหญ่กับผู้ถือหุ้นรายย่อย
คนทั่วไปไม่อยากเข้าไปแหยมกับ 16 หุ้น SP เท่าไหร่
ส่วนนักลงทุนขาใหญ่ คงไม่กล้าเข้าไปปั่นหุ้น เพราะระยะยาวเวลาที่เปิดให้ซื้อขายชั่วคราวสั้นเกินไป และผลีผลามเข้าไปปั่นหุ้นอาจเจอ “ของแข็ง” หรือเจอผู้ถือหุ้นใหญ่เทหุ้นขาย จนเจ็บตัวได้
ถ้าจะเกิดการปั่นหุ้น มีเพียงเจ้ามือหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ 16 หุ้น SP เท่านั้นที่ทำได้ ซึ่งไม่รู้ว่า มีหุ้น SP ตัวไหนถูกปั่นขึ้นมาหรือไม่
การเปิดซื้อขาย 16 หุ้น SP ชั่วคราว เป็นมาตรการเยียวยาผู้ถือหุ้น ช่วยให้มีทางเลือกว่า จะขายหุ้นทิ้ง หรือถือรอคอยการฟื้นฟูการดำเนินงานต่อไป โดยให้เวลาตัดสินใจจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
แต่ภายใน 1 เดือน จะเกิดการแลกหมัดวัดดวงใน 16 หุ้น SP จนฝุ่นตลบ และคงมีแมลงเม่าบาดเจ็บล้มตายกันไม่น้อย
เพราะหุ้น SP หลายตัว ถูกลากขึ้นอย่างน่าเสียวไส้ หาคำอธิบายถึงราคาที่พุ่งทะยานอย่างร้อนแรงไม่ได้ และไม่รู้ว่า มีใครอยู่เบื้องหลังการไล่ราคาหรือไม่
ตามแห่เข้าไปเก็งกำไร พลาดแล้วถึงตายทีเดียว