xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยปล่อยกู้แฟรนไชส์ออฟฟิศเมท พลัส-วงเงินสูงสุด333%ของหลักประกัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กสิกรไทยร่วมกับออฟฟิศเมทปล่อยกู้เปิดร้านแฟรนไชส์ออฟฟิศเมท พลัส หนุนลูกค้าเป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อเพื่อจำหน่ายอุปกรณ์ ไอที เครื่องใช้ สำนักงานวงเงินสูงสุด 333% ของหลักประกัน ตั้งเป้าปล่อยกู้ 150 ล้านในสิ้นปี

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้มีนโยบายสนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีธุรกิจที่มั่นคงและสามารถเติบโตต่อไปได้ ซึ่งธุรกิจแฟรนไชส์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้ประกอบหน้าใหม่ได้พิจารณา โดยกว่า 60 แบรนด์แฟรนไชส์ที่ธนาคารคัดสรรมานั้น เป็นแบรนด์ที่มีมาตรฐานดี มีความมั่นคงสูง และอยู่ในตลาดที่มีโอกาสเติบโตได้ ขณะที่ยอดสินเชื่อธุรกิจแฟรนไชส์คงค้างของธนาคารล่าสุดอยู่ที่ 2,520 ล้านบาท

ล่าสุด ธนาคารได้ร่วมกับออฟฟิศเมท ผู้ขายอุปกรณ์เครื่องเขียนสำนักงานหนึ่งในธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการที่ธนาคารร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในการจัดอบรมให้ความรู้ สนับสนุนและส่งเสริม
จนสามารถเปลี่ยนแนวทางจากการเป็นเพียงผู้ขายอุปกรณ์เครื่องเขียนสำนักงานทั่วไปมาเป็นการเจาะตลาดกลุ่มธุรกิจ เน้นทำธุรกิจแบบ B2B จนสามารถสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาด B2B ได้อย่างแท้จริง จนขยายสู่การเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ในที่สุด

ทั้งนี้ ออฟฟิศเมท พลัส (OfficeMate Plus+) เป็นแฟรนไชส์ที่เน้นลูกค้ากลุ่มคนทำธุรกิจขนาดเล็กและผู้ค้าออนไลน์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก ซึ่งที่ร้านออฟฟิศเมท พลัสมีสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ ทั้งยังมี OfficeMate x Kerry Express ให้บริการส่งพัสดุด่วนถึงลูกค้าด้วย โดยผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนแฟรนไชส์ออฟฟิศเมท พลัสสามารถขอสินเชื่อเพื่อเปิดกิจการ ปรับปรุงกิจการ และรีไฟแนนซ์ได้สูงสุดถึง 333% ของมูลค่าหลักประกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์การทำธุรกิจมาก่อน และหากสมัครเป็นแพ็คเกจทั้งสินเชื่อและบริการจัดการด้านการเงินจะได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียม เช่น ส่วนลดค่าธรรมเนียมการกู้ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ส่วนลดค่าธรรมเนียมการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (EDC/ K PLUS SHOP/ Payroll) เพิ่มอีกด้วย ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้าปล่อยกู้แฟรนไชส์ออฟฟิศเมท พลัสเอาไว้ที่ 150 ล้านบาทภายในสิ้นปี

ด้านนายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด กล่าวว่า ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของตลาดค้าปลีกอุปกรณ์สำนักงานมีแนวโน้มสดใส คาดการณ์มูลค่าตลาดเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงานปี 2562 มีมูลค่าสูงถึง 56,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตในอัตราเฉลี่ยปีละ 7% ไปจนถึงปี 2566 นอกจากนี้พฤติกรรมผู้บริโภคหันมานิยมการช้อปปิ้งออนไลน์ และการมองหา Supplier ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าแบบ One-Stop Solutions ทำให้ออฟฟิศเมทปรับตัวอย่างเต็มรูปแบบสู่การเป็นผู้นำตลาด B2B Solutions ที่เน้นจุดเด่นการบริการลูกค้าในช่องทางการขายที่มีทั้งออนไลน์และออฟไลน์ (Omni-Channel)

ทางด้านนางสาววิลาวรรณ ฤกษ์เกรียงไกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ออฟฟิศเมท กล่าวว่า แฟรนไชส์ออฟฟิศเมท พลัสเป็นการต่อยอดที่สำคัญของออฟฟิศเมท เพราะสามารถนำจุดแข็งของออฟฟิศเมทคือ โลจิสติกและออนไลน์ มาบริหารร่วมกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำธุรกิจสูงสุด จนสามารถตอบโจทย์ธุรกิจในปัจจุบันคือ “ครบ” ด้วยสินค้าและบริการที่ครบครันจากแบรนด์ชั้นนำ ขายสินค้าได้ทั้งหน้าร้านและออนไลน์เหมือนออฟฟิศเมททุกประการ “ง่าย” จัดการเติมสินค้าให้พร้อมจำหน่ายตลอดเวลา อัปเดตและแนะนำสินค้าใหม่ ๆ อยู่เสมอ หมุนเวียนและปรับเปลี่ยนสินค้าให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายได้ เช็กข้อมูลยอดขายและรายการสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ “เร็ว” มีซอฟท์แวร์และระบบจัดการรวดเร็ว สามารถเริ่มกิจการได้รวดเร็วกว่าด้วยคำแนะนำด้านทำเล การบริหารธุรกิจและฐานลูกค้า โดยผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ (Franchise Clinic) จากทางสำนักงานใหญ่ที่ให้การอบรม คำแนะนำด้านกิจกรรมทางการตลาดโปรโมชั่น การเลือกสินค้า และออกแบบตกแต่งร้าน โดยในปีนี้ตั้งเป้าเปิดร้านแฟรนไชส์ออฟฟิศเมท พลัส 15 สาขา และภายใน 10 ปี ตั้งเป้าเปิดร้านแฟรนไชส์ครอบคลุม 900 อำเภอทั่วไทย หรือ 1 อำเภอ 1 แฟรนไชส์
กำลังโหลดความคิดเห็น