ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นคึกคักอย่างผิดหูผิดตา ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ พุ่งลิ่วทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,700 จุด สร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบปี และแม้จะมีปัจจัยลบกระทบ แต่ดัชนีหุ้นไม่ยอมปรับฐานลง เนื่องจากมีแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติคอยพยุงตลอดเวลา
สัปดาห์นี้หุ้นน่าจะอ่อนตัว เพราะไม่มีข่าวดีใหม่กระตุ้น ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรุดตัวลง ทำให้ตลาดหุ้นย่านเอเชียร่วงตาม แต่ดัชนีหุ้นไทยกลับแข็งแกร่ง โดยนักลงทุนต่างชาติเข้ามาไล่ซื้อหุ้นขนาดใหญ่ กระชากดัชนีหุ้นฯ ขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขายเกือบทุกวัน
นับจากต้นปี ต่างชาติเทขายหุ้นต่อเนื่องจากปี 2561 และเพิ่งกลับมาลุยซื้อหนักในเดือนมิถุนายน จนมียอดซื้อหุ้นสุทธิสิ้นสุดวันที่ 26 มิถุนายนสะสมรวมทั้งสิ้น 37,200.43 ล้านบาท
ทำไมต่างชาติจึงไล่ช้อนหุ้นอย่างหนัก ทำไมจึงพยายามพยุงตลาดหุ้นไม่ให้เกิดความผันผวนในช่วง 2 สัปดาห์นี้
และต่างชาติจะกลับมาลงทุนต่อเนื่องหรือไม่ กลายเป็นโจทย์ที่นักลงทุนต้องการคำตอบ
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์บริษัทโบรกเกอร์บางแห่งประเมินว่า ต่างชาติจะกลับเข้าลงทุนต่อเนื่องจากถึงครึ่งปีหลัง เพราะเมื่อการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น กองทุนที่มีข้อกำหนดจะไม่ลงทุนในประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จะกลับเข้ามาลงทุนใหม่
และสงครามการค้าที่มีแนวโน้มจะคลี่คลาย จะทำให้ต่างชาติลดความกังวลในผลกระทบ นอกจากนั้น ยังมีการส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยสหรัฐฯ เงินทุนจึงมีแนวโน้มไหลกลับ และตลาดหุ้นไทยยังไม่แพงเกินไป อีกด้วย
โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มองความเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างชาติในแง่ดี เชื่อว่าจะทยอยกลับเข้ามาลงทุน และเริ่มมีการขยับปรับประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นฯ ปลายปี โดยคาดว่าสิ้นปีจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,750 จุด
แต่ไม่มีใครพูดถึงประเด็นในแง่ร้าย ไม่มีใครสะกิดเตือนนักลงทุนว่า ต่างชาติอาจเข้ามาเก็งกำไรในช่วงสั้นๆ เท่านั้น โดยฉวยโอกาสที่ตลาดหุ้นมีข่าวดี ผสมโรงเข้ามาจุดพลุไล่ราคา และขณะนี้กำลังรอจังหวะทุบขาย
ต่างชาติย่องเข้ามาทยอยซื้อสัญญาเซ็ต 50 ล่วงหน้า หรือ SET 50 FUTURES ตั้งแต่ดัชนีหุ้นย่ำอยู่แถว 1,600 จุดต้นๆ โดยซื้อขึ้นหรือซื้อ LONG โดยสิ้นสุดวันที่ 19 มิถุนายน กำสัญญา LONG อยู่กว่า 1 แสนสัญญา ส่วนนักลงทุนรายย่อยถือสัญญา SHORT หรือซื้อสัญญาลงไว้
หลังจากกักตุนสัญญา LONG จนพอใจแล้ว ต่างชาติจึงเริ่มลุยซื้อหุ้น ไล่ราคาหุ้นขนาดใหญ่ ผลักดันให้ดัชนีฯ ทะยานขึ้น สัปดาห์เดียวกระโจนขึ้นกว่า 50 จุด และไม่ยอมปล่อยให้ดัชนีฯ ทรุดตัวลง แม้กองทุนรวมและรายย่อยจะเทขายออกมาอย่างหนัก แต่ต่างชาติโหมแรงซื้อเข้ามาพยุงดัชนีฯ ไว้โดย สัปดาห์นี้มีแรงซื้อเข้าลากหุ้นช่วงปลายตลาดเกือบทุกวัน
สัญญาซื้อขาย SET 50 FUTURES อายุ 3 เดือน สิ้นสุดหรือหมดอายุในวันที่ 28 มิถุนายน และต่างชาติน่าจะพยุงหรือลากดัชนีฯ หุ้นจนถึงวันสุดท้ายของสัญญา SET 50 FUTURES เพื่อทำกำไรให้มากที่สุดจากสัญญา LONG ที่ถือไว้
การขึ้นลงของดัชนี 50 ทุก 1 จุด มีค่าตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเท่ากับ 200 บาท ต่างชาติตุนสัญญา LONG ไว้กว่า 1 แสนสัญญา และดัชนี 50 ปรับตัวขึ้นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 จุด ดังนั้น ต่างชาติจะทำกำไรจากสัญญา SET 50 FUTURES ครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
และเมื่อวันพุธที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้เริ่มทยอยทำกำไรแล้ว โดยขายสัญญาออกมาจำนวน 13,558 สัญญา
เงินต่างชาติที่ไหลทะลักเข้ามาในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไล่ซื้อหุ้นฝุ่นตลบวันละ 4-5 พันล้านบาทนั้น อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเกมการลากดัชนี 50 เพื่อทำกำไรจากสัญญาที่เก็บกักตุนไว้
เมื่อบรรลุเป้าหมาย ปิดสัญญา SET 50 FUTURES เรียบร้อย โกยกำไรจนพุงปลิ้นแล้ว จึงหมดความจำเป็นที่ต้องไล่ซื้อหุ้น แต่จะรอขายทำกำไรหุ้นรายตัวบนกระดานระลอก 2
เกมการลาก SET 50 FUTURES จะจริงหรือไม่ อดใจรออีกวันสองวันคงรู้คำตอบ ถ้าพ้นเดือนมิถุนายน ต่างชาติหยุดซื้อ แสดงว่า นักลงทุนภายในประเทศถูกฝรั่งตีหัว ขนเงินหนีกลับบ้านไปแล้ว
และอย่าหวังว่าจะเห็นหัวต่างชาติในครึ่งปีหลัง
โบรกเกอร์ที่อวดอ้างว่า ตลาดหุ้นไทยยังถูก จูงใจนักลงทุนต่างชาตินั้น ช่วยกันถามกลับดีไหม ค่า พี/อี เรโช เฉลี่ยระดับ 18.5 เท่า ตลาดหุ้นไทยถูกตรงไหน