“ทองคำ” ทะยานขึ้นได้รับแรงหนุนเฟดอาจจะมีการดำเนินการนโยบายการเงินในรูปแบบผ่อนคลาย แถมผุด QE กลับมาใช้ อีกทั้งสงครามการค้ายังรุนแรง เตือนราคาขึ้นมาสูงแล้ว ระวังแรงเทขายทำกำไร
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลียน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่ผ่านมาว่า ราคาทองคำมีการทะยานขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ราคามีการขยับขึ้นเข้าใกล้ระดับสูงสุดของปี 2019 หรือระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยทองคำได้รับแรงหนุนหลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณเกี่ยวกับท่าทีของเฟด อาจจะมีการดำเนินการนโยบายการเงินในรูปแบบผ่อนคลายตามภาวะเศรษฐกิจที่เหมาะสม โดยอาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง หรือมีการฟื้นฟูในส่วนของมาตราการ QE กลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง
“การส่งสัญญาณดังกล่าวทำให้นักลงทุนขายดอลลาร์สหรัฐ และเข้าซื้อทองคำ ขณะที่ความตึงเครียดทางสงครามการค้า และความกังวลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ยังถือว่าเป็นหนึ่งปัจจัยที่กลับมากระตุ้นให้เกิดการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มเติม ล่าสุด กองทุุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มีการเตือนว่าความขัดแย้งทางด้านภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับจีน อาจลดผลผลิตทางเศรษฐกิจโลกลง 0.5% ในปี 2020 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสนับสนุนให้ทองคำสามารถทรงตัวและขยับขึ้นได้ต่อ"
สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา ให้จับตาทิศทางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก เพราะประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” เคยขู่ไว้ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกในอัตรา 5% เพื่อเป็นการตอบโต้การที่มีผู้อพยพจากเม็กซิโกเดินทางเข้ามายังทางสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ พยายามเจรจาและมีท่าทีผ่อนปรนดังกล่าว แต่ทำเนียบขาวยังคงมีการออกมายืนยันว่ามาตรการดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปและต้องรอ “ทรัมป์” มาเป็นผู้พิจารณา
นอกจากนี้ แนะนำให้จับตาดูสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน หลังจากประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ส่งสัญญาณว่าจะจัดเก็บภาษีจีนเพิ่ม 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ท่าทีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนมีท่าทีตึงเครียดมากยิ่งขึ้น เมื่อสหรัฐฯ เองมีการส่งสัญญาณจะขายอาวุธให้แก่ไต้หวัน ซึ่งไต้หวันกับจีนมีความขัดแย้งทางด้านพรมแดนกับจีนเท่ากับเป็นปรปักษ์กับจีน และอาจจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และอาจสร้างความยากลำบากในการเจรจาการค้าเพิ่มสูงขึ้น
ทำให้กลยุทธ์การลงทุน YLG ให้แนวรับระดับ 1,311/1,387 และ 1,366 แนวต้านประเมินไว้ระดับ 1,357/1,375 และ 1,391 อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มหรือโมเมนตัมทองคำยังคงเป็นบวกในระยะสั้นและระยะกลาง แต่เนื่องจากราคามีการขยับหรือปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก อาจเกิดแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง แนะนำให้จับตาดูแรงซื้อแรงขาย หากแรงขายไม่มากหรือการอ่อนตัวลงมาของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระดับ 1,324-1,311 เหรียญ แสดงว่าเป็นแรงขายทำกำไรระยะสั้น แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อในระดับดังกล่าวเพื่อหวังทำกำไรเมื่อราคาขยับหรือดีดตัวขึ้น
โดยอาจทยอยแบ่งทองคำออกขายบริเวณแนวต้านต่างๆ โดยใช้แนวต้านระดับ 1,346-1,357 เหรียญ แต่หากราคาสามารถรักษาระดับไว้ในระดับสูงได้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ควรถือครองทองคำต่อเพื่อไปรอขายที่แนวต้านถัดไป