xs
xsm
sm
md
lg

ราคาอสังหาฯแนวก่อสร้างไฮสปรีดเทรนคาดปรับขึ้นเฉลี่ย 30-50%

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศไทยเริ่มชัดเจนขึ้นอีกครั้ง หลังรัฐบาลเห็นชอบโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ส่งผลให้พื้นที่รอบการก่อสร้าง โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์คึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากต้นปีที่ผ่านมาเผชิญความเปราะบางหลายประการ จึงใช้เวลานี้เป็นโอกาสทองในการกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค ด้วยการอัดแคมเปญส่วนลด 2 ล้านบาท

นายสุธรรม สุวรรณนภาศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นัมเบอร์วัน เฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของโครงการขนาดใหญ่ทุกโครงการทั่วประเทศ ถูกประเมินว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนสะพัดกว่า 7.6 แสนล้านบาท แต่หากนับเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ประกอบด้วย สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินอู่ตะเภา รวมระยะทาง 220 กิโลเมตร เพียงโครงการเดียว มีมูลค่าการลงทุน 224,500 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวส่งผลให้ธุรกิจโดยรอบ ที่แนวเส้นทางก่อสร้างพาดผ่าน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง มีโอกาสเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงราคาที่ดินถูกปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยที่ดินเขตบางนา ประเวศ เดิมปรับตัวเฉลี่ย 7-8% ทุกปี แต่หากนับจากวันนี้จนโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567 และสาธารณูปโภคอื่นๆโดยรอบพร้อมรองรับ ก็มองว่าที่ดินเขตบางนา ประเวศนี้จะปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 30-50% แต่หากเป็นที่ดินในเขตที่ไกลออกไป โดยเฉพาะช่วงสนามบินอู่ตะเภาที่ปัจจุบันยังไม่มีความพร้อมมากนักก็มีโอกาสปรับตัวสูงเกิน 100% ขณะเดียวกันนักวิชาการหลายฝ่ายมองว่าโครงการก่อสร้าง จะเกิดประโยชน์มหาศาลทั้งด้านเศรษฐกิจและการเงิน ทั้งยังเกิดการจ้างงานในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกว่า 100,000 อัตรา มีการใช้วัสดุก่อสร้างในประเทศ รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีสมัยใหม่ด้วย

ความชัดเจนของการลงทุนโครงการดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 62 หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมลงทุนกับบริษัทเอกชนที่ได้รับคัดเลือก คือ กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง (ซีพีเอช) เนื่องจากผ่านการประเมินคุณสมบัติทั่วไปและข้อเสนอทางเทคนิคพิเศษ ซึ่งยื่นข้อเสนอมูลค่าการลงทุนของรัฐอยู่ที่ 149,650 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ ครม.เคยอนุมัติให้ รฟท.ทำสัญญากับเอกชนถึง 2,198 ล้านบาท พร้อมคาดว่าจะลงนามสัญญาดังกล่าวได้ภายในวันที่ 15 มิ.ย. 62

“ผมมองว่า ความชัดเจนของโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นโอกาสดีที่จะทำให้โครงการบลูลากูน 2 บางนา-วงแหวน มียอดจองเพิ่มขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้าเผชิญปัจจัยท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย Loan to Value หรือ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยทำเลดังกล่าว มีศักยภาพทั้งจากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ ศูนย์การค้าเมกาบางนา รวมไปถึงโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่อย่างเดอะ ฟอเรสเทียร์ และแบงค็อก มอลล์ ทำให้เรามองว่าจะมีการแข่งขันด้านราคาสูงขึ้น จึงอัดแคมเปญส่วนลด 2 ล้านบาทมาท้าชนคู่แข่งในพื้นที่ โดยมอบส่วนลดสำหรับคฤหาสน์หรูหลังใหญ่พร้อมสระว่ายน้ำ บน Private Zone ที่โอบล้อมด้วยสวน Infinity Park 7 ไร่ เริ่มต้นที่ 28 ล้านบาท จับกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการบ้านหรู และเพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายครบครัน”

สำหรับโครงการบลูลากูน 2 บางนา - วงแหวน เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ luxury ขนาดพื้นที่โครงการ 47 ไร่ 1 งาน 89.9 ตร.ว. มีหลายแบบบ้านให้เลือกตั้งแต่ขนาด พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 188 ตร.ม. เนื้อที่ 51.6 ตารางวา จนไปถึงแบบพื้นที่ใช้สอย 368 ตร.ม. บนที่ดิน 142 - 164.2 ตร.ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น