ยูโอบีร่วมกับ"บิซิเนส ออนไลน์" เปิดตัวบริการผ่านแอปพลิเคชั่น"แมทซ์ลิ้งค์"พร้อมปล่อยสินเชื่อผู้ประกอบการเน้นกลุ่มเอสเอ็มอีรายย่อย-กลาง วงเงินสูงสุด 5 ล้าน ตั้งเป้ามียอดปล่อยสินเชื่อกว่า 300 ล้านบาท ภายในปีแรก
นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคาร ยูโอบี (ไทย) จำกัด (มหาชน) (UOB) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมมือกับ บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) (BOL) เปิดตัวบริการใหม่”การขอสินเชื่อเอสเอ็มอี ผ่านแมทซ์ลิ้งค์ ซึ่งเป็นบริการที่ให้บริการสินเชื่อธุรกิจนิติบุคคลแบบไม่มีหลักประกันผ่านช่องทางออนไลน์ วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้ในตลาด โดยใช้เอกสารในการยื่นขอสินเชื่อน้อยลง 5 เท่า รวมถึงยังใช้เวลาอนุมัติรวดเร็วภายใน 5 วันทำการ อย่างไรก็ตามธนาคารตั้งเป้าจะสามารถขยายฐานลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีรายใหม่ที่จะมาใช้บริการขอสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาทภายในปีแรกที่เปิดให้บริการ
ทั้งนี้ แอปพลิเคชั่นแมทซ์ลิ้งค์ เป็นการพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อสร้างให้เป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มที่สามารถเชื่อต่อธุรกิจได้อย่างครบวงจร และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีในยุคดิจิทัล เนื่องจากเป็นแอปพลิเคชั่นที่รวบรวมช้อมูลต่างๆ ของบริษัทจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากว่า 1.6 ล้านแห่ง เช่น ข้อมูลด้านการเงิน โดยคุณสมบัติของผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อต้องเป็นนิติบุคคลที่มีรายได้ปีละไม่เกิน 400 ล้านบาท ดำเนินกิจการมาแล้วกว่า 3 ปี และต้องยินยอมให้ตรวจสอบข้อมูลทางการเงินหรือเครดิตบูโรได้ ที่สำคัญต้องไม่ติดเอ็นพีเแอลในรอบระยะ 3 ปีที่ผ่านมาด้วย
"ความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถแมชชิ่งกับคู่ค้าทั้งในฝั่งซื้อและขายได้แล้ว ยังเพิ่มการเข้าถึงสินเชื่อได้ด้วยหากต้องการเงินทุนเพิ่ม ซึ่งยูโอบีสามารถนำเสนอได้อัตราที่ต่ำประมาณ 14.5% วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาทโดยไม่มีหลักประกัน ซึ่งจำนวน 300 ล้านบาทที่เราคาดหวังไว้จะเป็นส่วนของลูกค้าใหม่ เพราะลูกค้าเก่าจะมี ที่ปรึกษาทางการเงินดูแลอยู่แล้ว ซึ่งเท่าที่เปิดทดลองในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมามียอดผู้ประกอบการที่สนใจประมาณ 200 ราย ผ่านการสกรีน 60 ราย ซึ่งในอนาคตหากเรามี Big Data เพิ่มมากขึ้นก็จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ลูกค้าได้ในอนาคต"
สำหรับสินเชื่อเอสเอ็มอีรายย่อยและรายกลางของธนาคารในปีนี้ตั้งเป้าเติบโตที่ 6%หรือประมาณ 2 เท่าของจีดีพี จากคงค้างสินเชื่อที่ระดับ 1 แสนล้านบาท โดยในไตรมาสแรกมีสินเชื่อเติบโตได้ในระดับสูงกว่าการเติบโตของจีดีพีที่ 2.8% ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)อยู่ในระดับต่ำกว่า 5% จากปีก่อนที่ 6% เนื่องจากธนาคารได้ตั้งทีมในการดูแลลูกค้า รวมถึงมีการปรับโครงสร้างหนี้และช่วยเหลือลูกค้าก่อนที่จะเป็นเอ็นพีแอล