กรุงไทยคงเป้าหมายสินเชื่อปีนี้ที่ 5% พร้อมระบุมีความท้าทายเพิ่มขึ้นจากสงครามการค้าที่ส่งผลกระทบวงกว้าง จับตาเอสเอ็มอียังไม่กระเตื้อง มั่นใจเคทีซีทำพิโก-นาโนรุ่งรอรับส่วนแบ่งกำไร-ปันผล
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)(KTB)เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารยังคงเป้าหมายสินเชื่อเติบโตปีนี้ไว้ที่ระดับ 5% จากยอดคงค้างสินเชื่อของธนาคารที่ 1.8 ล้านล้านบาท แต่มีความท้าทายเพิ่มขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่ประเทศไทยในฐานะซัพพลายเชนสินค้าด้านอิเลคทรอนิกส์จากจีนก็หนีไม่พ้นที่จะได้รับผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีหากสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจน สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ก็จะช่วยทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ดีกว่าช่วงที่ผ่านมาของปี
"สินเชื่อทั้งปีเราอาจจะหย่อนๆกว่าเป้าไปบ้าง แต่ก็เป็นไปตามเทรนด์ของเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งปีนี้เราเจอทั้งเรื่องของสงครามการค้า แล้วก็เกณฑ์ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น จากการเบิกจ่ายโครงการรัฐที่เพิ่มขึ้น และสินเชื่อรายย่อยจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีนั้นน่าจะทรงตัว เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ธนาคารให้การดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและสงครามการค้า ซึ่งธนาคารก็จะมาตรการสำหรับดูแลเป็นรายกลุ่มอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้ตกลงมาเป็นเอ็นพีแอลและให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้"
นอกจากนี้ ธนาคารจะให้ความสำคัญกับการประเมินค่าสินทรัพย์รอการขาย(NPA)ในส่วนที่อยู่ในพอร์ตมา 6-7 ปีแล้ว เพื่อประเมินมูลค่าตามสภาวะปัจจุบัน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการให้ได้อย่างเหมาะสม โดยธนาคารมีเอ็นพีเออยู่ประมาณ 32,000 ล้านบาท
**เชื่อมั่นKTCทำพิโก-นาโนรุ่ง-รอรับกำไร**
นายผยงกล่าวอีกว่า นอกเหนือจากธุรกิจของธนาคารแล้ว ธนาคารยังมีธุรกิจรายย่อยที่ผ่านการถือหุ้นในบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (KTC) โดยธนาคารถือหุ้น KTC ในสัดส่วน 49.45% และถือหุ้นในบริษัทเคทีซี นาโน จำกัด และบริษัทเคทีซี ฟิโก(กรุงเทพ) จำกัดใหม่ที่ดำเนินธุรกิจพิโก-นาโนไฟแนนซ์อีกแห่งละ 24.95% ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ธนาคารมีรายได้จากส่วนแบ่งกำไรและเงินปันผลจากการถือหุ้นดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจได้ภายในปีนี้
ขณะเดียวกัน หากทางเคทีซีต้องการใช้เครือข่ายใดๆอาทิ สาขาซึ่งปัจจุบันก็เป็นจุดชำระบัตรเครดิตอยู่แล้ว เพิ่มเติมก็สามารถทำได้ โดยปัจจุบันธนาคารมีสาขาประมาณ 1,166 สาขา คาดว่าปีนี้จะปิดหรือควบรวมประมาณ 50 สาขา และเปิดเพิ่มบางสาขาที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ อาทิ สาขาโรงพยาบาลศิริราช
"ธนาคารเชื่อมั่นเคทีซีว่ามีความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่ทำอยู่และกำลังจะทำ จากผลงานที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้ว ทั้งด้านการบริหารธุรกิจ และการดูแลความเสี่ยง เพราะธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ และพิโกไฟแนนซ์เป็นธุรกิจที่มีผลตอบแทนสูงและความเสี่ยงสูง แต่เราก็เชื่อมั่นในศักยภาพของเคทีซี"
**เปิดตัว M-PASSเวอร์ชั่นใหม่**
ล่าสุด ธนาคารกรุงไทยร่วมกับกรมทางหลวงได้เปิดตัว แอปพลิเคชั่น M-PASS เวอร์ชั่นใหม่ ที่ผู้ใช้สามารถเติมเงินบัตร M-PASS ด้วย QR CODE ผ่าน Mobile Banking นอกเหนือจากการเติมเงินผ่านแอปพลิเคชั่นกรุงไทย NEXT ตู้เอทีเอ็ม กรุงไทย Corporate Online หรือที่ตู้บุญเติม ของธนาคารต่างๆได้ รวมทั้งยังสามารถตรวจสอบยอดคงเหลือในบัตร รายการผ่านทาง คำนวณราคาตามระยะทาง ประวัติเดินทางย้อนหลัง และสถานที่จำหน่ายบัตร M-PASS รายงานสรุปค่าผ่านทางหรือพิมพ์ใบสำคัญแทนใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์(e-statement)ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ลูกค้าที่สนใจเพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น M-PASS และลงทะเบียนด้วยเลขบัตร Smart Card และเลข Tag Number ของบัตร M-PASS ซึ่งคาดว่าแอปพลิเคชั่น M-PASS เวอร์ชั่นใหม่นี้ จะยอดดาวน์โหลดที่ 30,000 ราย จากจำนวนผู้ถือบัตร 150,000 ราย และคาดว่าสิ้นปีจะมียอดผู้ถือบัตร M-PASS รวม 200,000 ราย และในไตรมาส 3 นี้ ธนาคารจะพัฒนาบัตร M-PASS ให้เป็น Contactless เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งาน รวมถึงมีแผนพัฒนาระบบการชำระเงิน สำหรับด่านผ่านทางให้มีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น