ผู้จัดการรายวัน 360 องศา - “บางกอก เชน ฮอสปิทอล” ทิศทางยังเติบโตต่อเนื่องจนครึ่งปีหลัง แม้ต้องตั้งสำรองเพิ่มให้พนักงาน เหตุรายได้จากผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น อีกทั้งโรงพยาบาลใหม่ช่วยเสริม จนถูกยกให้เป็น Growth Stock ของกลุ่ม
บล.เอเซีย พลัส ประเมินทิศทางธุรกิจ บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) ว่า สำหรับผลดำเนินงานไตรมาส 2/62 ยังมีแนวโน้มเติบโตสูงเกิน 15% แม้ต้องตั้งสำรอง Employee Retirement Benefit เพิ่มขึ้น โดยคาดรายได้ประกันสังคมในงวดไตรมาส 2/62 มีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่องจากผู้ประกันตนเพิ่มขึ้นราว 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน รวมถึงจะมีรายได้ส่วนเพิ่มค่าภาระเสี่ยง 26 โรคแรงร้ายที่ได้รับจริง คาดจะสูงกว่าที่บันทึกบัญชีไว้ในปี 2561 ราว 70 ล้านบาท เพราะ BCH ตั้งสำรองรายได้ประกันสังคมแบบอนุรักษนิยม
ส่วนทิศทางไตรมาส 2/2562 ในโรงพยาบาลเวิลด์ เมคิคอล หรือ (WMC) คาดจะมีกำไรราว 25 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรราว 15 ล้านบาท ดังนั้นแม้ในงวดไตรมาส 2/2562 จะมีการตั้งสำรอง Employee Retirement Benefit ตาม พ.ร.บ.แรงงานฉบับใหม่ราว 29 ล้านบาท แต่ยังมั่นใจว่ากำไรงวดไตรมาส 2/2562 จะเติบโตได้เกิน 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่กำไรครึ่งหลังของปี 2562 ของ BCH คาดว่า เติบโตในอัตราที่ลดลงจากครึ่งแรกของปี 2562 ไม่มาก แม้ฐานกำไรปีก่อนสูงมาก โดยในงวดไตรมาส 3/2561 และไตรมาส 4/2561 ทาง WMC มีฐานกำไรที่สูงถึง 45 ล้านบาท และ 30 ล้านบาท ตามลำดับ ทำให้ในงวดครึ่งหลังของปี 2562 โรงพยาบาลเวิลด์ เมคิคอล จะเติบโตไม่สูงเหมือนครึ่งแรกของปี แต่ศูนย์ใหม่ IVF ที่จะเปิดกลางปีนี้ คาดจะช่วยให้กำไรของ WMC ครึ่งหลังของปี 2562 ยังเติบโตได้
สำหรับรายได้ผู้ป่วยเงินสดในโรงพยาบาลอื่น ทั้งที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ และรามคำแหง ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และรายได้โครงการประกันสังคมยังเติบโตได้เกิน 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่ต่ำในปีก่อน เป็นผลให้คาดกำไรสุทธิในปี 2562 จะเติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 17% ถือเป็นหนึ่งในหุ้นที่กำไรปกติเติบโตโดดเด่นสุด ทำให้ BCH จัดเป็นหุ้น Growth Stock ในกลุ่มโรงพยาบาลที่มีพัฒนาการเติบโตต่อเนื่อง บวกกับราคาเป้าหมายปี 2562 อิงวิธี DCF อยู่ที่ 21 บาท
ด้าน บล. ฟินันเซีย ไซรัส ให้ความเห็นต่อ BCH ว่ายังคงประมาณการกำไรปกติปี2562 ของ BCH ที่ 1.24 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.80% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยจะเห็นการเติบโตของกำไรรายไตรมาสในระดับที่ดีต่อเนื่องจากการเติบโตของรายได้ทั้งฝั่งเงินสดและประกันสังคมที่ยังไม่มีโมเมนตัมที่ดี ขณะที่ครึ่งปีหลังจะได้แรงหนุนจากการเปิดศูนย์ IVF นอกจากนี้คาดว่า BCH จะยังไม่ได้รับแรงกดดันจากต้นทุนของโรงพยาบาลใหม่เนื่องจากจะทยอยเปิดให้บริการในปี 2563 - 2564 จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 21 บาท