กสิกรไทยเดินหน้ารุกดิจิทัลเพย์เมนท์ในลาว เผยขณะนี้มียอดดาวน์โหลดแอพฯ 4 หมื่นราย พร้อมหาพันธมิตรขยายสู่ Banking Agent คาดปีนี้มีความคืบหน้า
นายภัทรพงศ์ กันหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)(KBANK)เปิดเผยว่า แผนธุรกิจของสาขาธนาคารกสิกรไทยในสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในระยะ 3 ปีข้างหน้านั้น จะนำระบบ Payment Digital Platform ไปใช้มากขึ้น โดยผ่านแอพพลิเคชั่น K PLUS ซึ่งได้เริ่มทดลองตลาดไปแล้วโดยปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นประมาณ 40,000 ราย แต่ปริมาณการทำธุรกรรมยังไม่มากนัก จึงต้องมีการเก็บข้อมูลเพื่อนำมาพัฒนาบริการต่อไป จากในปีที่ผ่านมาที่ธนาคารได้เริ่มขยายบูธเติมเงิน รวมถึง E Wallet ที่เชื่อต่อกับบัญชีเงินฝากของลูกค้าไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีแนวทางที่ขยายธุรกิจแบงก์กิ่งเอเย่นต์ (Banking Agent)ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรในท้องถิ่นเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ต่างๆมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีการขยายสาขา ซึ่งขณะนี้ก็ได้ใบอนุญาตทำแบงก์กิ้งเอเย่นต์แล้ว แต่ธนาคารยังอยู่ระหว่างการเฟ้นหาพันธมิตรทางธุรกิจที่เหมาะสม ซึ่งรูปแบบการดำเนินการก็จะใกล้เคียงกับที่ทำในประเทศไทย ซึ่งเท่าที่หารือก้จะมีทั้งกลุ่มเทลโก้และร้านสะดวกซื้อ รวมทั้งจะต้องมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงกัน โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้
ทั้งนี้ ด้านเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ ธนาคารได้วางเป้าหมายธุรกิจสาขาลาวในระยะ 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะทำกำไรเติบโตขึ้น 2 เท่าทุกปี หลังจากปีก่อนสามารถทำกำไรได้แล้วซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ เป็นผลมาจากการผลักดันให้ลูกค้าที่ลาวมี E Wallet เพิ่มเข้ามา เพื่อใช้การเติมเงิน และซื้อขายสินค้าต่างๆ รวมถึงการทำ Trade Finance โดยลูกค้าบริษัทในไทยที่เข้ามาขยายธุรกิจในลาว ขณะที่คุณภาพสินเชื่อของลาวอยู่ในระดับที่ดี โดยที่ผ่านมายังไม่มีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)เนื่องจากใช้การวิเคราะห์สินเชื่อในรูปแบบ Intelligent Lending ซึ่งใช้ข้อมูลมาศึกษาวิเคราะห์การปล่อยสินเชื่อภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ทำให้สามารถทำกำไรและบริหารจัดการหนี้ได้ดีขึ้น
สำหรับทุนจดทะเบียนที่มีอยู่นั้น ยังมีเพียงรองรับการขยายธุรกิจ แต่จะต้องเพิ่มทุนอีกหรือไม่นั้นคงต้องรอประเมินหลังปี 2565 ก่อน เนื่องจากจะเป็นช่วงที่มีธุรกิจจากจีนเข้ามาขยายธุรกิจในเวียดนามมากภายใต้โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่จากจีนเชื่อมโยงมายังลาวที่คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี 2564 ซึ่งหากมีความจำเป็นก็สามารถขอเพิ่มทุนจากธนาคารกสิกรไทยอยู่แล้ว
อนึ่ง ธนาคารกสิกรไทยได้ดำเนินธุรกิจของสาขาในลาวตลอด 3 ปีที่ผ่านมาด้วยทุนจดทะเบียน 40 ล้านดอลลาร์หรือ1,200 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดสินค้าคงค้าง 170 ล้านบาท เติบโตสูงขึ้นทุกปี มีฐานลูกค้ารายย่อย 40,000ราย และรายใหญ่ 50 ราย มีส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ(NIM)ที่ 5-6%
ล่าสุดในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านกสิกรไทยสปป.ลาวได้จับมือลาวเทเลคอมฯเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ แอพฯ" QR KBank" แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินบนโทรศัพท์มือถือที่ไม่ต้องผูกกับบัญชีธนาคาร โดยตั้งเป้าหมายมียอดผู้ใช้กว่า 120,000 ราย มีธุรกรรมเกิดขึ้น 3 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 88,500 ล้านลาวกีบในปีนี้ และตั้งเป้าว่าจะสามารถขยายจุดให้บริการของธนาคาร รวมถึงตัวแทนจุดให้บริการให้ครอบคลุมทั่วทั้งนครหลวงเวียงจันทน์อีกกว่า 120 จุด และให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศสปป. ลาว ในอนาคต