ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยงานวิจัยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แหล่งประเทศไทย หรือ ตลท.ในหุ้นกลุ่มบริการสุขภาพและสถานบริการพยาบาล พบว่า การลงทุนในธุรกิจการแพทย์ นอกจากจะมีเป้าหมายเพื่อผลตอบแทนที่โดดเด่นแล้ว ผู้ลงทุนยังมีส่วนร่วมในการยกระดับบริการทางด้านสุขภาพของไทยในฐานะที่เป็นประเทศเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในลำดับต้นๆ ของโลก หุ้นกลุ่มบริการทางการแพทย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) ในปัจจุบันมีจำนวน 23 บริษัท มีผลตอบแทนจากการลงทุนโดดเด่นกว่ามาตรฐานอ้างอิง MSCI World Health Care Net Total Return Index
นอกจากผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีแล้ว ธุรกิจการแพทย์ได้เร่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจโดยมุ่งเน้นไปในทางการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ การป้องกันก่อนเจ็บป่วย การแพทย์เฉพาะทาง และนวัตกรรมทางการแพทย์ ประกอบกับโครงสร้างของประชากรไทยที่กำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ประชาชน ภาคธุรกิจ และภาครัฐต่างตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้จำนวนผู้รับบริการด้านสุขภาพทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2557-2561) จากข้อมูลของบริษัทที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง พบว่า จำนวนผู้ใช้บริการชาวไทยและชาวต่างชาติเติบโตเฉลี่ย 5.3% และ 5.1% ต่อปี ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนเป็นผลกำไรสุทธิของธุรกิจที่เติบโตเฉลี่ย 8.5% ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
จากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางประชากรไทยดังกล่าว และชาวต่างชาติที่มาใช้ชีวิตหลังเกษียณในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจการแพทย์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การยกระดับบริการของโรงพยาบาลรัฐในรูปแบบที่ทัดเทียมโรงพยาบาลเอกชนอาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายฐานจำนวนผู้ใช้บริการในโรงพยาบาลเอกชน ดังนั้น การลงทุนของธุรกิจการแพทย์ที่มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรม และรูปแบบบริการที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจได้เป็นอย่างดี