พฤกษาฯ เผยไตรมาสแรกยอดขายธุรกิจอสังหาฯปั๊มได้กว่า 11,000 ล้านบาท กลุ่มทาวน์เฮ้าส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 ด้านตัวเลขรายได้ 11,881 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 43.6 ถึงรอบโอนโครงการคอนโดฯ 2,459 ล้านบาท สมทบกับรายได้จากโครงการแนวราบ ฟันกำไร 1,686 ล้านบาท แจงโครงการในมือที่ขายและพัฒนาในมือกว่า 208,000 ล้านบาท
นางสาวสุภรณ์ ตรีวิชยพงศ์ รักษาการในตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH กล่าวถึงผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 62 ยังคงมาจากรายได้ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก โดยในไตรมาสนี้ บริษัทมียอดขายจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 11,178 ล้านบาท ลดลง 1,518 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ12 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2561 โดยในไตรมาส 1/2562 มีการเปิดโครงการใหม่จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการเท่ากับ (Project value) 6,256 ล้านบาท เป็นโครงการของกลุ่มทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,101 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 1 โครงการ มูลค่า 1,179 ล้านบาท และโครงการอาคารชุด จำนวน 2 โครงการ มูลค่า 3,976 ล้านบาท เมื่อเทียบกับโครงการที่เปิดใหม่ในรอบเวลาเดียวกันของปี 2561 จำนวน 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม (Project Value) เท่ากับ 9,794 ล้านบาท
บริษัทยอดขายในไตรมาส 1 ลดลงปีก่อน สำหรับส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ทาวน์เฮ้าส์ เพิ่มขึ้น 641 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 สำหรับผลิตภัณฑ์บ้านเดี่ยว และอาคารชุด บริษัทมียอดขายลดลง จำนวน 667 ล้านบาท และ 1,492 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับไตรมาส 1 บริษัทมีรายได้ทั้งหมดมาจากกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ ประกอบด้วยรายได้จากการขายอสังหาฯ เท่ากับ 11,881 ล้านบาท และรายได้อื่น 28 ล้านบาท รวมรายได้เท่ากับ 11,909 ล้านบาท โดยรายได้จากการขายอสังหาฯที่เพิ่มขึ้น 3,608 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.6 เนื่องจากโครงการอาคารชุดถึงรอบในการโอนกรรมสทิธิ์ โดยเพิ่มขึ้นจากผลิตภัณฑ์อาคารชุด 2,459 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ137.4 ได้แก่ โครงการ CHAPTER ONE ECO รัชดา-ห้วยขวาง, เดอะทรี สุขุมวิท 71-เอกมัย, พลัมคอนโด ราม 60 อินเตอร์เชนจ์, พลัมคอนโด รามคำแหง สเตชั่น, เดอะทรี ลาดพร้าว 15, The Tree ริโอแอท บางอ้อ สเตชั่น เป็นต้น และรายได้จากบ้านทาวน์เฮ้าส์เพิ่มขึ้น 949 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.1 รายได้จากบ้านเดี่ยว เพิ่มขึ้น 199 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.1 ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการ LTV ที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย. 2562 และยังไม่มีรายได้จากธุรกิจอื่นๆ
บริษัท มีกำไรเท่ากับ 1,686 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14.2 ของรายได้รวม และกำไรสำหรับรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน เท่ากับ 862 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.4 ของรายได้รวม โดยบริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นเท่ากับ 824 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 95.6 มาจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น 3,608 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.6
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 กลุ่มธุรกิจอสังหาฯ มีโครงการที่เริ่มเปิดขายและยังดำเนินงานอยู่ (Active Project) จำนวน 185 โครงการ มูลค่ารวมโครงการ (Total project value) 208,005 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 111 โครงการ มูลค่ารวม 88,179 ล้านบาท บ้านเดี่ยว จำนวน 44 โครงการ มูลค่ารวม 49,294 ล้านบาท โครงการอาคารชุดของกลุ่มธุรกิจ Value จำนวน 22 โครงการ มูลค่ารวม 48,982 ล้านบาท และโครงการอาคารชุดของกลุ่มธุรกิจ Premium จำนวน 8 โครงการ มูลค่ารวม 21,551 ล้านบาท.