ระยะนี้มีข่าว นักลงทุนฟ้องผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนออกมาถี่ยิบ รวมทั้งกรณีที่ผู้ถือหุ้นบริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) หรือ PRO ยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ตรวจสอบผู้บริหารบริษัท ฯ ในความผิดลักทรัพย์
PRO เป็นผู้ให้บริการกำจัดและบำบัดของเสียอุตสาหกรรมแบบครบวงจร เข้าจดทะเบียนตั้งแต่ปี 2547 โดยหุ้นถูกขึ้นเครื่องหมาย เอสพี พักการซื้อขายมาประมาณ 5 ปีแล้ว เนื่องจากไม่ส่งงบการเงินตามเวลาที่กำหนด ปัจจุบันถูกย้ายเข้ากลุ่มฟื้นฟูการดำเนินงาน และอยู่ในข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน
ในอดีตหุ้น PRO ติดอยู่ในข่ายหุ้นเก็งกำไรร้อนแรง มีการปล่อยข่าวกระตุ้นราคา แต่ในที่สุดราคาก็วูบลง และปิดครั้งสุดท้ายที่ 17 สตางค์ มีนักลงทุนรายย่อยติดค้างอยู่ในบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ประมาณ 1,637 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 74.12 % ของทุนจดทะเบียน
ผู้ถือหุ้นใหญ่คือ น.ส.วิไลลักษณ์ สกุลภักดี ถือหุ้นในสัดส่วน 18.48 % และมีนางสาววารุณี ชลคดีดำรงกุล ถือหุ้น 1.54 %
แม้เป็นหุ้นที่มีสภาพตายซาก อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ ก็ไม่วายที่จะมีการทุจริต จนผู้ถือหุ้นทนไม่ได้ ต้องลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง โดยแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารที่ผ่องถ่ายทรัพย์สินออกจากบริษัท ยักยอกทรัพย์ของผู้ถือหุ้น
คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 โดยผู้ถือหุ้น PRO ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารบริษัทและบุคลอื่นที่ร่วมกระทำความผิด ในข้อหาลักทรัพย์ และความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากได้ขายเศษวัสดุจากการตัดแยกขยะฝังกลบภายในโรงงานที่จังหวัดสระแก้ว แต่ไม่นำเงินเข้าบริษัท
ล่าสุด ตำรวจได้ออกหมายเรียกผู้บริหารบริษัทและผู้ร่วมกระทำผิด มารับทราบข้อกล่าวหา ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสรุปสำนวนเสนออัยการสั่งฟ้อง
แต่ผู้ถือหุ้นต้องการให้ ก.ล.ต. เข้าตรวจสอบความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ของผู้บริหาร PRO และกล่าวโทษซ้ำ เพราะมีเบาะแสและมีผลการสอบสวนของตำรวจแล้ว
ผลประกอบการ PRO หลายปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิต่อเนื่อง โดยปี 2561 กำไรสุทธิ 33.43 ล้านบาท ขณะที่ปี 2560 กำไรสุทธิ 20.04 ล้านบาท และปี 2559 กำไรสุทธิ 0.54 ล้านบาท แต่มียอดขาดทุนสะสมจำนวน 792.60 ล้านบาท
ถ้าพิจารณาจากผลประกอบการ หุ้น PRO ยังมีโอกาสกลับมาแจ้งเกิดใหม่ สามารถออกจากกลุ่มฟื้นฟูกิจการ และกลับมาซื้อขายตามปกติ
แต่พฤติกรรมการลักทรัพย์ การผ่องถ่ายทรัพย์สิน สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส และการทุจริตภายใน
อาจกระทบต่อแผนฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากรายได้ของบริษัท อาจถูกไซ่ฟ่อน เช่นเดียวกับรายได้จากการขายเศษวัสดุที่ได้จากการคัดแยกขยะ
ผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนกว่า 1 พันรายคงทำใจกันแล้ว สำหรับความเสียหายจากหุ้นตัวนี้ เพราะโอกาสที่จะเรียกทุนคืนริบหรี่เต็มที
จะรอผู้นักลงทุนรายใหญ่กลุ่มใหม่มาเทกโอเวอร์ เปลี่ยนแปลงการบริหาร หรือปรับธุรกิจใหม่ คงไม่ง่าย เพราะชั่วโมงนี้ แม้แต่นักลงทุนขาใหญ่ยังแทบเอาตัวไม่รอดชั่วโมงนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ อาจมีนักลงทุนขาใหญ่เข้ามาเทกโอเวอร์หุ้นเน่า ๆ และแต่งเนื้อแต่งตัวบริษัทใหม่ สร้างนวนิยายขายฝัน หลอกนักลงทุนรายย่อยให้แห่เข้ามาทำกำไร แต่การปั่นหุ้นทำยากขึ้นทุกที และนักลงทุนรายย่อยรู้ทันแก๊งปั่นหุ้น
การผ่องถ่ายเงินใน PRO ถ้าผู้ถือหุ้นไม่หอบหลักฐานมาแจ้งความดำเนินคดี ผู้บริหารบริษัทและผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมกันโกง คงลอยนวลไปแล้ว
เพราะ ก.ล.ต.ไม่มีความสามารถตรวจสอบลึกลงไปถึงขั้น การยักยอกเงินจากการขายเศษวัสดุของ PRO เช่นเดียวกับการยักยอกผ่องถ่ายหรือไซ่ฟ่อนทรัพย์สินออกจากบริษัทจดทะเบียนอีกนับร้อยบริษัท
แต่คดี PRO ผู้ถือหุ้นแจ้งเบาะแสและนำหลักฐานการโกงมาให้แล้ว ก.ล.ต. มีหน้าที่ฟันซ้ำผู้บริหารบริษัทเท่านั้น
คดีอมเงินขายเศษวัสดุของผู้บริหาร PRO เป็นคำตอบว่า ทำไมบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้จึงแปรสภาพเป็นหุ้นเน่า