"อรินสิริ"แบรนด์อสังหาฯภูธร เจ้าตลาดโซนชลบุรี เดินหน้าเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ นำเงินมารองรับขยายพัฒนาโครงการ หลังมีแลนด์แบงก์เพียบ ลั่น เราขอเป็นเจ้าตลาดในโซนภูมิภาคตะวันออก รุกระยอง ฉะเชิงเทรา บางนา เพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ แย้มเตรียมเพิ่มพอร์ตสินทรัพย์ประเภทสร้างรายได้ประจำ ทุ่มกว่าพันล้านเปิด 4 โครงการใหม่ในปี62
นายสุชาติ ชมกลิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงของการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นครั้งแรก เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดชลบุรีว่า เป็นจังหวัดที่ภาคอสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตขึ้นเป็นอันดับ1ในภาคตะวันออก( ไม่นับรวมกรุงเทพฯ) มีการขยายตัวของจีพีดีค่อนข้างสูง เป็นเมืองท่าที่สำคัญ มีความหนาแน่นของประชากรและประชากรแฝงมากกว่า 3.5 ล้านคน เนื่องจากในจังหวัดและบริเวณโดยรอบ มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เกิดขึ้น อย่างเช่น นิคมอุตสาหกรรมของอมตะ ได้ลงทุนซื้อที่ดินเพิ่มกว่า 7,000 ไร่ รองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมตามนโยบายการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนเข้ามา ก็ต้องสานต่อนโยบายของการลงทุนในอีอีซี ขณะที่ราคาที่ดินในจังหวัดชลบุรีปรับตัวค่อนข้างสูง ติดถนนราคาอยู่ที่ 20 ล้านบาทต่อไร่ หรือปรับขึ้นมาไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50-60 และการเติบโตของภาคอสังหาฯเริ่มขยายไปหนานแน่นที่อ.พานทอง อ.บ้านบึง และ อ.พนัสนิคม เป็นต้น
สำหรับนโยบายการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น วางเป้าต้องมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแนวทางแรก คือ มองหาโอกาสและความเป็นไปได้ในการขยายไลน์ธุรกิจใหม่ๆเพิ่มเติม เพื่อเป็นฐานรองรับการสร้างรายได้ประจำให้กับบริษัทอรินสิริฯ จากปัจจุบันรายได้ทั้งหมดจะมาจากธุรกิจการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2549 รวมเป็นเวลา 14 ปี พัฒนามา 20 โครงการ มูลค่าการขายกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งในแผนแล้ว จะลดสัดส่วนรายได้จาการขายเหลือร้อยละ 70 และเพิ่มรายได้ประจำให้ได้ร้อยละ 30
"เรามีวิธีการเพิ่มสินทรัพย์ทางด้านการสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอเข้ามา เพียงแต่รูปแบบและจังหวะยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากบริษัท อรินสิริฯ จะกระจายหุ้นIPO แต่มั่นใจเป้าหมายดังกล่าวจะทำได้ตามที่วางไว้"
แนวทางที่สอง บริษัทฯต้องมองหาและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำภาคอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออกให้ได้ จากที่ปัจจุบันโครงการและแบรนด์ของอรินสิริ เป็นที่รู้จักในวงกว้างภายในจังหวัดชลบุรี โครงการที่เปิดขายมียอดจองและปิดการขายได้ก่อนที่จะสร้างบ้านตัวอย่างแล้วเสร็จ สะท้อนให้เห็นความแข็งแกร่งของแบรนด์อรินสิริ ทั้งนี้ เพื่อเติมเต็มฐานลูกค้า ในแผนปี 2562 จะไปเปิดตลาดใหม่ในจังหวัด นำแบรนด์อรินสิริไปสร้างการรับรู้ในจังหวัดใหม่ๆ คือ จังหวัดระยอง เป็นครั้งแรก เพื่อรองรับการขยายตัวของกำลังซื้อทั้งอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวที่มาแรง โครงการแรกที่จะไปปักธง จะพัฒนาในรูปแบบโครงการบ้านเดี่ยว บนเนื้อที่โครงการ 31 ไร่ จำนวน 160 หลัง ราคา 3-4 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 580 ล้านบาท
นอกจากนี้ พื้นที่ในจังหวัดฉะเชิงเทราต่อเนื่องถึงถนนบางนา ทางบริษัทจะเข้าไปขยายลงทุน เนื่องจากทำเลดังกล่าวมีศักยภาพและการเติบโตของกำลังซื้อ รวมถึงยังได้รับประโยชน์จากนโยบายอีอีซี อย่างไรก็ดี ในเรื่องนโยบายการลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯนั้น ยังไม่มีความเป็นไปได้ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่เอื้ออำนวย แต่เราจะมุ่งมั่นในการขยายส่วนแบ่งตลาด(แชร์)ในตลาดอสังหาฯภูมิภาค
ทั้งนี้ เป้าหมายของการระดมทุนเพื่อมารองรับการพัฒนาโครงการ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีที่ดินพร้อมเปิดทุกโครงการ ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาและอยู่ระหว่างการขายจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการอรินสิริ สปอร์ต วิลเลจ โครงการอรินสิริ คันทรี ฮิลล์ และโครงการอรินสิริ ไพรเวซี่ ทั้ง 3 โครงการเหลือสต๊อกที่สามารถสร้างยอดขายประมาณ 1,200 ล้านบาท
และมีแผนลงทุนเปิด 4 โครงการใหม่รวมประมาณ 1,393.85 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการอรินสิริ บีช @ บ้านฉาง รูปแบบบ้านเดี่ยว เปิดขายไตรมาส 2 ปีนี้ จำนวน 148 ยูนิต มูลค่า 542.70 ล้านบาท 2.โครงการอรินสิริ เมาท์เท่น รูปแบบทาวน์โฮม เปิดขายไตรมาส3ปีนี้ จำนวน 302 ยูนิต มูลค่า 546.12 ล้านบาท 3.โครงการอรินสิริ แคมปัส รูปแบบอาคารชุดพักอาศัย 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร มูลค่า 305.03 ล้านบาท และ4.โครงการอรินสิริ บีชคอนโด 1, 2 อาคารชุดพักอาศัย 14 ชั้น 2 อาคาร มูลค่ารวมโครงการ 1,600 ล้านบาท โดยตัวเลขผลการดำเนินงานในปี 62 คาดจะเติบโตจากปี 61 ที่มีรายได้รวม 380.14 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 119.38 ล้านบาท กำไรสุทธิ 26.05 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 31.41
ในด้านภาพรวมการแข่งขัน นายสุชาติ กล่าวว่า บริษัทน่าจะได้เปรียบคู่แข่งขัน แม้ว่าปัจจุบันจะมีคู่แข่งขันรายใหญ่เข้ามารุกขยายตลาดในภูมิภาค เนื่องจากบริษัทมีความชำนาญในพื้นที่มานาน ต้นทุนที่ดินในการพัฒนาโครงการต่ำกว่าคู่แข่ง และผู้บริโภครู้จักในแบรนด์อรินสิริ.