ทีเอ็มบีประกาศผลกำไรไตรมาสแรกที่ 1.57 พันล้าน ลดลง 30% โดยรายได้ที่มืใช่ดอกเบี้ยที่ลดลง 32%จากรายได้ค่าธรรมเนียม-แบงก์แอชชัวรันส์-กองทุนที่ลดลง ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 3.4% และเอ็นพีแอลทรงตัวที่ 2.81%
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)(TMB)แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 1,578.8 ล้านบาท ลดลง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไร 2,279.7 ล้านบาท และลดลง 7.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยทีเอ็มบีมียอดเงินฝากรวม 6.61 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% ขณะที่ยอดคงค้างสินเชื่อรวมอยู่ที่ 6.87 แสนล้านบาท เติบโตที่ 0.2%โดยธนาคารดำเนินการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังควบคู่ไปกับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งการเติบโตดังกล่าวสินเชื่อรายย่อยยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักเติบโตที่ 4.2%จากสิ้นปีก่อน มาจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเติบโต 5.7% ขณะที่สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ลดลง 2.2% รวมถึงสินเชื่อเอสเอ็มอีก็ลดลงเช่นกันเนื่องจากธนาคารยังคงดำเนินการปรับปรุงพอร์ตเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง และมีส่วนต่างอัตราการดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.89%เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.3%
ด้านรายได้ดอกเบี้ยสุทธิไตรมาสแรกมีจำนวน 6,236 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 3.4%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายตัวของสินเชื่อคุรและ เงินลงทุน และธุรกิจเพื่อการค้าและพอร์ตตราสารหนี้ แต่อย่างไรก็ตารายได้ดอกเบี้ยสูทธิไตรมาสแรกทรงตัวเมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 3,353 ล้านบาท ลดลง 32%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการชะลอตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจากการขยายแบงก์แอสชัวรันส์และกองทุนรวม
ส่วนการสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญนั้น ธนาคารมีเป้าหมายที่จะรักษาระดับอัตราส่วนสำรองฯต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพหรือ Coverage ratio มากกว่า 140% โดยปัจจุบันอัตราส่วนดังกล่าวของธนาคารอยู่ที่ 145% ขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพ (เอ็นพีแอล)ทรงตัวที่ 2.81%ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาก่อนหน้า