การจัดงานบางกอกมอเตอร์โชว์ ปี 2562 ซึ่งสร้างรายได้หลักให้บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ปิดฉากลงแล้ว โดยไม่ส่งผลบวกต่อราคาหุ้นบริษัทฯ แม้ว่ายอดการจองซื้อรถยนต์ภายในงานจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนก็ตาม
บรรยากาศงานบางกอกมอเตอร์โชว์ปีนี้ ถือว่าคึกคัก มียอดจองซื้อรถยนต์จำนวนทั้งสิ้น 49,278 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีจำนวนทั้งสิ้น 42,499 คัน แต่หุ้น GPI กลับซบเซา มูลค่าการซื้อขายเบาบาง ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ สะท้อนให้เห็นว่า
นักลงทุนในตลาดหุ้น ไม่แสดงการตอบรับกับกิจกรรมการสร้างรายได้หลักของบริษัท ไม่เห็นว่างานบางกอกมอเตอร์โชว์ จะกระตุ้นราคาหุ้นแต่อย่างใด จึงไม่มีการไล่ซื้อหุ้น
GPI อยู่ในช่วงขาลงมาตลอด นับจากเข้าซื้อขาย เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2560 หลังจากใช้เวลาแต่งตัวอยู่หลายปี โดยราคาหุ้นที่เสนอขายนักลงทุนทั่วไป ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กำหนดที่ 3.50 บาท/หุ้น มีบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
"กลุ่มเอี่ยมลำเนา" เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ GPI โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อย จำนวน 1,656 ราย ซึ่งถือว่าจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยยังน้อยอยู่ เนื่องจากไม่ใช่หุ้นเก็งกำไรยอดนิยม
ราคาหุ้น GPI เคยทรุดสร้างจุดต่ำสุด นับแต่เข้าซื้อขายที่ 2 บาท ระหว่างชั่วโมงซื้อขาย เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 และปัจจุบัน ราคาก็ยังอยู่ในอาการที่น่าเป็นห่วง โดยขยับขึ้นลงแถว 2 บาทต้นๆ ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่บางตา
ถ้าพิจารณาด้านปัจจัยพื้นฐาน หุ้น GPI ถือว่ามีปัจจัยพื้นฐานรองรับ และสามารถประคับประคองผลประกอบการบริษัทไม่ให้ตกต่ำมากนัก โดยปี 2561 มีรายได้รวม 744.37 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 131.51 ล้านบาท ลดลงจากปี 2560 ซึ่งมีรายได้รวม 824.06 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 140.17 ล้านบาท
ค่าพี/อี เรโช หุ้นตัวนี้อยู่ในระดับต่ำ คือประมาณ 9.49 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 11.54% ซึ่งถือว่าสูงมาก และควรเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน แต่กลับเป็นหุ้นที่ถูกเมิน ซึ่งน่าจะเกิดจากความไม่มั่นใจในผลประกอบการในอนาคต
เพราะถ้าแนวโน้มผลประกอบการเติบโต ค่าพี/อี เรโช จะต่ำลงอีก อัตราเงินปันผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้น และกลายเป็นหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
แต่นักลงทุนอาจกลัวว่า ผลประกอบการจะชะลอตัว และจะทำให้ ค่าพี/อี เรโช สูงขึ้น ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทนต่ำลง จนกลายเป็นหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานอ่อนแอ ราคามีแนวโน้มจะทรุดลงต่อไป จึงไม่สนใจจะเข้ามาเสี่ยงกับหุ้น GPI
และมีแต่นักลงทุนที่ถูก “แขวน” จำนวนกว่า 1 พันราย ที่ถือหุ้นอยู่เท่านั้น
เมื่องานบางกอกมอเตอร์โชว์ยังไม่สามารถปลุกหุ้น GPI ให้ฟื้นได้ ไม่รู้ว่าจะมีธุรกรรมอะไรของบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ที่จะกระตุ้นให้หุ้นมีความคึกคักได้
ใครที่ติดหุ้น GPI ไว้ คงหาทางแกะออกลำบาก เพราะไม่เห็นสัญญาณการดีดตัวกลับ แม้ตัวเลขทางด้านปัจจัยพื้นฐานจะดูดีก็ตาม แต่พิจารณาโครงสร้างรายได้ของบริษัท และแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการไม่ “เด่น”
ราคาจึงย่ำต๊อกอยู่แถว 2 บาทต้นๆ ไม่หือไม่อือกับความคึกคักของงานบางกอกมอเตอร์โชว์ปีนี้ที่เพิ่งปิดฉากไป
