xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯลดเป้าจีดีพีโต3.7%-เก็งตั้งรบ.ไม่เกินมิ.ย.- เร่งดันมาตรการกระทุ้งศก.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กสิกรไทยปรับประมาณการจีดีพีโตเหลือ 3.7%จากเดิม 4% จากส่งออก-เศรษฐกิจโลกชะลอเร็ว วางไทม์ไลน์รัฐบาลตั้งไม่เกินมิ.ย.พร้อมเร่งเข็นมาตรการกระตุ้นฐานรากเป็นโจทย์แรก

นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 ลงมาที่ 3.7% จากเดิมที่ 4.0% หรือมีกรอบคาดการณ์ใหม่ที่ 3.2-3.9% รวมถึงปรับลดประมาณการการส่งออกเหลือ 3.2% จากเดิม 4.5% และลดประมาณการการนำเข้าเหลือ 4.3% จากเดิม 5.3%

ทั้งนี้ การปรับลดประมาณการดังกล่าว สะท้อนกิจกรรมส่งออกที่มีแนวโน้มอ่อนแรงลง ตามผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญของไทย แม้ว่าประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนจะมีพัฒนาการที่ดีกว่าที่คาดไว้ก็ตาม

สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งจากผลการสำรวจความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของคนไทยหลังการเลือกตั้ง 1 วัน พบว่า 47.5%เชื่อมั่นเศรษฐกิจดีขึ้น อีก 35.7%ลดลง และเท่าเดิม 16.8% ขณะที่ Timeline ในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ประเมินว่าหากสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ก็จะสามารถนำร่างงบประมาณประจำปีเข้าสภาฯได้ทันใช้ในปีงบประมาณ 2563 และทันใช้งบ 3 เดือนสุดท้ายของงบประมาณปี 2562

ทั้งนี้ เชื่อว่าโจทย์แรกของรัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาโดยหลักก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลออยู่ ซึ่งคาดว่าทำผ่าน 3 มาตรการได้แก่ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร, การเพิ่มสวัสดิการผู้มีรายได้ และมาตรการหักลดหย่อนภาษี โดยอาจจะทำทั้งหมดหรือบางข้อก็ได้ แต่มาตรการเหล่านี้จะเป็นมาตรการระยะสั้นที่เม็ดเงินหลักหมื่นล้านบาทหรือประมาณไว้ที่ 2-3 หมื่นล้านบาท ประเมินว่าจะช่วยกระตุ้นจีดีพีประมาณ 0.2-0.4% ซึ่งมาตรการต่างๆดังกล่าวน่าจะมีผลช่วนกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในไตรมาส 4 และจะทำให้จีดีพีในครึ่งปีหลังเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรกที่ใกล้ๆ 4% จากคาดการณ์ครึ่งปีแรกที่ 3.3%

"เรามองว่าโจทย์แรกที่รัฐบาลใหม่เข้ามาก็คือการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั้งจากเศรษฐกิจโลกและการหยุดเพื่อรอดูหลังการเลือกตั้ง ซึ่งจากแนวนโยบายของพรรคต่างๆแล้วก็ให้ความสำคัญกับกลุ่มเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงน่าจะมาทางกลุ่มดังกล่าว ส่วนกรณีการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้ากว่ากำหนดการที่เราคาดการณ์ไว้ก็ต้องดูจากสาเหตุก่อน แต่ในเบื้องต้นแล้วก็จะอยู่ในกรอบล่างของประมาณการจีดีพี"

ด้านแนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศนั้น คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.75%ตลอดปีนี้ ซึ่งเมื่อผนวกกับสภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ที่ยังมีอยู่มาก และจังหวะการปล่อยสินเชื่อที่ยังค่อยเป็นค่อยไป คงทำให้การแข่งขันด้านอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ไทยยังไม่รุนแรง ส่วนทิศทางค่าเงินบาทคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.20-32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปัจจัยในประเทศทั้งสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น