xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงตู่” กลับมา...หุ้นเล่นยากต่อไป / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บรรยากาศการซื้อขายหุ้นภาคเช้า วันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเงียบเหงา เพราะนักลงทุนชะลอการตัดสินใจ เพื่อรอความชัดเจนการประกาศผลการเลือกตั้ง แต่หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลการนับคะแนนครบทั้ง 100% ตลาดหุ้นเปิดในภาคบ่ายทะยานขึ้นทันที

แม้การจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการ อาจเกิดขึ้นหลังวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ หรืออีก 1 เดือนเศษข้างหน้า แต่ดูเหมือนว่า นักลงทุนคาดหมายแล้วว่า พรรคการเมืองใดจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ผลการนับคะแนนครบทั้ง 100% ทำให้เห็นตัวเลข ส.ส. ของทุกพรรคการเมืองอย่างไม่เป็นทางการ โดย 6 พรรคการเมืองที่เปิดตัวจับมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล และอ้างว่า มีเสียงข้างมาก 255 เสียง ซึ่งรวมพรรคเศรษฐกิจใหม่ของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เข้าไปด้วยนั้น ตัวเลขที่เป็นจริงขาดหายไปจากการเป็นขั้วการเมืองเสียงข้างมาก

เพราะพรรคเพื่อไทยมี ส.ส.จำนวน 137 คน พรรคอนาคตใหม่ 87 คน พรรคเสรีรวมไทย 11 คน พรรคประชาชาติ 6 คน พรรคเพื่อชาติ 5 คน และพรรคพลังปวงชนไทย 1 คน รวม 6 พรรคมีเสียงทั้งสิ้น 143 คน ซึ่งหากพรรคเศรษฐกิจไทยเข้าร่วม จะมี ส.ส. ในขั้วพรรคเพื่อไทยเพียง 149 คน

ดังนั้น โอกาสขั้วพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลจึงเป็นไปได้ยากขึ้น

ตลาดหุ้นช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งดีดตัวขึ้น ไม่ได้เป็นการรับข่าว กกต.ประกาศรายชื่อ ส.ส. ครบทั้ง 500 คนอย่างไม่เป็นทางการเท่านั้น แต่อาจเป็นการตอบรับความคาดหมายในรัฐบาลชุดใหม่ด้วย

พรรคพลังประชารัฐ แม้จะมีจำนวน ส.ส. น้อยกว่า แต่จำนวนประชาชนที่ลงคะแนนเสียงสนับสนุนมากกว่า และมีภาษีในการจัดตั้งรัฐบาลมากกว่า เพราะมีแต้มต่อ ส.ว. จำนวน 250 คนอยู่ในมือ

ในระยะสั้น ตลาดหุ้นอาจตอบรับความคาดหมาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาสืบทอดอำนาจอีกครั้ง นักลงทุนอาจชิงซื้อหุ้นดักเก็งกำไรรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ แต่ทิศทางการลงทุนระยะยาวยังบอกไม่ได้ว่า จะสดใสหรือไม่

เพราะการที่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมา ไม่ได้หมายความว่า เศรษฐกิจจะฟื้น นักลงทุนจะมีความเชื่อมั่น ตลาดหุ้นจะคืนสู่ความคึกคัก

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์หุ้นคาดการณ์กันว่า หลังการเลือกตั้ง นักลงทุนต่างชาติจะกลับมา ตลาดหุ้นจะฟื้น แต่ผ่านพ้นการเลือกตั้งมา 1 สัปดาห์แล้ว ต่างชาติยังไม่มา หุ้นยังขยับขึ้นลงในกรอบแคบๆ ขณะที่โบรกเกอร์บางสำนัก ประกาศลดประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นปีนี้ลง

บริษัทหลักทรัพย์ แอสเซทพลัส จำกัด ประเมินว่า ดัชนีหุ้นปลายปีจะอยู่ที่ระดับ 1,705 จุด ลดลงจากเดิมที่ประเมินไว้ 1,795 จุด เพราะคาดว่า ผลกำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้จะชะลอตัว

การกลับมาของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่ใช่ปัจจัยที่จะกระตุ้นการลงทุน แต่อาจเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดการเก็งกำไรในระยะสั้นเท่านั้น

ตลาดหุ้นปีนี้มีอุปสรรคขวากหนามมากมาย โอกาสการทำกำไรเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะแม้ปัจจัยภายนอกจะสดใส ไม่ต้องกังวลการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ไม่ต้องกลัวผลกระทบจากสงครามการค้า

และแม้จะมีการเลือกตั้ง ขณะที่รัฐบาลชุดใหม่กำลังรอการจัดตั้ง แต่ไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจในแนวโน้มตลาดหุ้นแต่อย่างใด

ปีที่ผ่านมา นักลงทุนเจ็บตัวกันถ้วนหน้า แต่ปีนี้คงถอนทุนคืนไม่ได้ และต้องพยายามรักษาตัว ไม่ให้เจ็บซ้ำอีก

แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะกลับมาใหม่ แต่หุ้นยังเล่นยากเหมือนเก่า



กำลังโหลดความคิดเห็น