xs
xsm
sm
md
lg

แสนสิริปลุกปั้น'สิริ เฮ้าส์' ยกระดับแบรนด์สู่สากล

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แสนสิริ กับรูปแบบกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ เปิดตัว สิริ เฮ้าส์ แห่งที่ 2 ชูความเป็นไลฟ์สไตล์คอมมิวนิตี้สเปซ มุ่งสู่การสร้างแบรนด์ให้ครองใจลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ พร้อมมุ่งไปสู่เป้าหมายช่วง 3 ปี สร้างยอดขาย 1.6 แสนล้านบาท

นายนพปฎล พหลโยธิน ประธานผู้บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯได้เปิดเปิดตัว สิริ เฮ้าส์ เป็นไลฟ์สไตล์คอมมิวนิตี้สเปซโปรเจกต์แฟลกชิปแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯแห่งที่ 2 โดยเป้าหมายสำคัญ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ทั้งในประเทศและในตลาดต่างประเทศ และตั้งเป้าภายในปี 2563 ให้แบรนด์แสนสิริครองอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคไทยและต่างชาติ ซึ่ง สิริ เฮ้าส์ จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ยอดขายรวมของบริษัทฯ ให้ได้ตามแผน 3 ปี (61-64)สู่ระดับ 1.6 แสนล้านบาท

สำหรับสิริ เฮ้าส์ ในประเทศไทย อยู่ในซอยสมคิด ถนนเพลินจิต ใช้งบลงทุนมูลค่า 40 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงบ้านเก่าอายุกว่า 50 ปี และสร้างเพิ่มบางส่วนบนที่ดินเช่ากว่า 1,600 ตารางเมตร(ตร.ม.) ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าว จะเป็นมิติใหม่ในการสร้างแบรนด์ที่คุ้มค่าและยืนยาว ขณะเดียวกันสามารถสร้างรายได้กลับมา

ทั้งนี้ เรื่้องการสร้างแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญ ท่ามกลางการแข็งขันที่สูงในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนอจากเรื่องของสินค้า โปรดักส์ ทำเล ราคา แล้ว จะต้องมีจุดยืนที่ต่างกับการขายอสังหาฯในต่างประเทศ ที่จะเป็นการซื้อเพื่อการลงทุนและมองเรื่องผลตอบแทน(ยิวด์)เป็นปัจจัยหลัก

"บริษัทจะเดินหน้าสร้างการรับรู้แบรนด์ในต่างประเทศ และเพื่อต้องการขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ให้มากขึ้น ซึ่งพบว่า เซกเมนส์กลาง-ล่างจะขายได้ดี แต่กลุ่มลักชัวรี่ที่ตารางเมตรละ 200,000 บาทขึ้นไป ยังมีส่วนแบ่งที่น้อย"

สำหรับสิริเฮ้าส์ที่ประเทศสิงคโปร์ ที่เปิดเป็นแห่งแรก ใช้งบลงทุน 30 ล้านบาท เนื่องจากเป็นพื้นที่ศักยภาพ ที่จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าระดับลักชัวรีในต่างประเทศกระจายออกไปสู่ประเทศในแถบเอเชียและตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นประเทศ ฟิลลิปปินส์ ,อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นต้น โดยเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ และมีโชว์รูมตัวอย่างโครงการระดับไฮเอนด์ให้ลูกค้าได้สัมผัส  ขณะเดียวกัน ภายใน 6 เดือนข้างหน้า จะนำผลมาประเมินผลสำเร็จ เพื่อวางแผนการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น เจริญกรุง และท่าเตียน ส่วนในต่างประเทศได้พิจารณาที่ประเทศฮ่องกง และจีน เพราะเป็นฐานที่สำคัญในการขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น