กลุ่ม UHG รุกหนักธุรกิจโรงแรม อาคารสำนักงาน เตรียมผุด 7 โครงการ โรงแรม สำนักงาน มิกซ์ยูส มูลค่าลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท เริ่มทยอยแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 62-65 ส่งผลโรงแรมในเครือกว่า 3,000 ห้อง อาคารสำนักงาน 4 แห่ง ส่งผลปี 65 กำไร 1,000 ล้านบาท
นายวุฒิพล ถาวรธวัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เออร์เบิน ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จำกัด หรือ UHG เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภท โรงแรม อาคารสำนักงาน จำนวน 7 แห่ง มูลค่าการลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นโครงการประเภทมิกซ์ยูส 2 แห่ง แบ่งเป็นโรงแรม 6 แห่ง อาคารสำนักงาน 2 แห่ง โดยจะเริ่มทยอยแล้วเสร็จในปี 2562-2565
ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทได้เซ็นสัญญาเช่าที่ดินระยะยาว 30 ปี บริเวณใกล้แยกรัชโยธินตรงข้ามกับตึกช้าง ขนาด 3.5 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก 15,000-20,000 ตร.ม. โรงแรมประมาณ 200 ห้อง ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565 โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท
ส่วนอีก 6 โครงการที่อยู่การก่อสร้างได้แก่ 1.โครงการอ่อนนุช ฮิลล์ ตั้งอยู่บนที่ดินเช่า 1.5 ไร่ ปากซอยสุขุมวิท 58 พัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาด 7,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก โครงการนี้จะเสร็จในปี 2565 เช่นกัน โดยใช้เงินลงทุน 600 ล้านบาท คิดอัตราค่าเช่าสำนักงาน 800 บาท/ตารางเมตร/เดือน
2.โรงแรมเดอะควอเตอร์ พร้อมพงษ์ โรงแรมจำนวน 84 ห้อง ก่อสร้างแล้วเสร็จเปิดให้บริการในไตรมาส 2/62, 3.โรงแรมเดอะควอเตอร์ เพลินจิต จำนวน 113 ห้อง เปิดให้บริการ ไตรมาส 4/62, 4 โรงแรมเดอะควอเตอร์ สีลม จำนวน 160 ห้อง เปิดให้บริการ ไตรมาส 3/63 5.โรงแรมเดอะควอเตอร์ ร่วมฤดี จำนวน 160 ห้อง เปิดให้บริการไตรมาส 4/63 และ 6 โรงแรมเดอะ เจ้าพระยาแบงก์คอก
ปัจจุบันกลุ่ม UHG มีโรงแรมที่เปิดให้บริการ 6 แห่งจำนวน 800 ห้อง มูลค่าการลงทุนราว 5,000 ล้านบาท ได้แก่ โรงแรมอารีย์ฮิลส์, ลาดพร้าวฮิลส์, เอเวอร์กรีนเพลส สยาม, เดอะเรสซิเดนซ์ออนทองหล่อ, อโศกเรสซิเดนซ์ สุขุมวิท, อัลท์โฮเทล สีลม ส่วนอาคารสำนักงานซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูส ได้แก่ เอเวอร์กรีนเพลสและควอเอตร์ อารีย์ ซึ่งเมื่อรวมกับโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและที่อยู่ในแผนการดำเนินงาน จะทำให้ในปี 2565 กลุ่ม UHG ,uโรงแรมในเครือกว่า 3,000 ห้อง อาคารสำนักงาน 4 แห่ง และในปี 2565 บริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงานไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท หรือเติบโตกว่าเท่าตัวจากปัจจุบัน
นายวุฒิพล กล่าวต่อว่า ตลาดโรงแรมและอาคารสำนักงานยังสามารถเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะโรงแรมที่เติบโตตามการท่องเที่ยวไทย ที่ประเทศไทยมีจุดเด่นในเรื่องการท่องเที่ยวที่ไม่มีชาติใดในโลกลอกเลียนแบบได้ มีธรรมชาติที่สวยงาม โดยอัตราการท่องเที่ยวเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีโรงแรมเปิดใหม่จำนวนมาก แต่ก็ยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยอัตราการเข้าพักของโรงแรมในเครือ UHG ไม่น้อยกว่า 96% โดยให้ความสำคัญต่อการบริหารราคาค่าห้องพัก ที่สามารถปรับเปลี่ยนขึ้น-ลงได้ตามสถานการณ์ จัดโปรโมชั่นเพื่อให้ลูกค้าเข้าพักโรงแรม เพราะบริษัทเชื่อว่าเมื่อลูกค้าเข้าพัก ทางโรงแรมสามารถเสนอบริการอื่นได้ อาทิ ร้านอาหาร ร้านค้า ฟิสเนสและอื่นๆ
ส่วนการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานจะต้องอยู่ในทำเลเดินทางสะดวกใกล้สถานีรถไฟฟ้า ซึ่งอาคารสำนักงานที่บริษัทพัฒนาจะเน้นโครงการมิกซ์ยูสเพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เช้าได้ใช้บริการ ซึ่งได้แก่ ร้านค้า ร้านอาหาร ฟู้ดคอร์ท ฟิสเนต ซึ่งในบางโครงการจะมีสระว่ายน้ำด้วย
“ทำเลถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาโรงแรมและอาคารสำนักงาน ซึ่งในปัจจุบันที่ดินหายากและมีราคาแพง ที่ดินแปลงสวยส่วนใหญ่อยู่ในมือของกลุ่มคนชั้นสูงหรือผู้ที่มีฐานะดี ซึ่งกลุ่มนี้จะไม่อยากขายที่ดิน ดังนั้นบริษัทจึงเน้นการเช่าที่ดินระยะยาวไม่น้อยกว่า 30-50 ปี ทำให้ได้ที่ดินในทำเลศักยภาพมาพัฒนา”นายวุฒิพลกล่าว
ในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งแนวราบและแนวสูง ซึ่งรอโอกาสที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินเปล่าที่มีศักยภาพ 2 แปลง ได้แก่ ที่ดินเปล่าขนาด 20 ไร่ มูลค่าราว 2,000 ล้านบาท ติดถนนศรีนครินทร์ อยู่ระหว่างธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ และสำนักงานใหญ่ของโมเดิร์นฟอร์ม ซึ่งหากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสร้างแล้วเสร็จที่ดินแปลงดังกล่าวจะมีศักยภาพสูงมากและสามารถพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยได้ ส่วนอีกแปลงอยู่ศรีราชา ชลบุรี ขนาด 170 ไร่ มูลค่า 700 ล้านบาท