Me by TMB เผยกลยุทธ์ปี 62 รุกทำตลาดแบบ Personalize ตั้งเป้าจำนวนลูกค้าใหม่เพิ่ม 20% เน้นกลุ่ม GEN D ที่มีดิจิทัลเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าผ่าน Full EKYC คาดเริ่มได้ในไตรมาส 2
นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร Me by TMB เปิดเผยว่า ในปีนี้ Me by TMB มีกลยุทธ์การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบของการทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง หรือ Personalize ด้วยการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ พร้อมนำเสนอบริการแบบครบวงจร เพื่อให้ลูกค้าได้รับ Digital Experience ผ่านกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่ม Me Love You เป็นกลุ่มลูกค้าเดิมที่ใช้งาน Me เป็นประจำอย่างต่อเนื่องและมีผลิตภัณฑ์ครบทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 50%ของจำนวนบัญชี Me จะนำเสนอ
ผลิตภัณฑ์และบริการพร้อมด้วยสิทธิพิเศษที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มนี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและก่อให้เกิดการบอกต่อในอนาคต
ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่ขาดการติดต่อกับ Me หรือที่เรียกว่า Me Miss you ซึ่งมีอยู่ประมาณ 30%จองจำนวนบัญชีรวมนั้น จะใช้วิธีการกระตุ้นให้กลับมาเคลื่อนไหวบัญชี โดยนำประสบการณ์ใหม่ที่จะทำให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้มากขึ้น และกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์ต่อไปและMe Need you หรือกลุ่มลูกค้าใหม่ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าหมายอยู่ที่ 20%ของลูกค้าปัจจุบัน โดยจะโฟกัสไปที่กลุ่ม Gen D และ Gig worker หรือ ฟรีแลนช์ ซึ่งจากผลการวิจัยพฤติกรรมพบว่า ดิจิทัลเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของ Gen D รวมถึงการชอบใช้โซเชียล และยังมีอีก 2 เรื่องใหญ่ที่ Gen D ให้ความสำคัญคือ การบริหารการใช้จ่ายเพื่อการออม และการบริหารการลงทุนส่วนจำนวนเงินฝากนั้น เฉลี่ย 7 ปีที่ผ่านมาเติบโตได้ดีที่ 44% และในปีที่ผ่านมาเติบโตได้ 10% ซึ่งถือว่าเติบโตได้ดีแม้ในช่วงที่ระบบโดยรวมเติบโตได้ไม่มากนัก และหากมีระบบ EKYC มาใช้ก็จะช่วยทำให้ปริมาณและจำนวนบัญชีเงินฝากเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ Me ยังมีแนวทางกระตุ้นหันมาใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีลูกค้าใช้งานอยู่ประมาณ 70% โดยมีเป้าหมายเพิ่มขึ้น 80%ของลูกค้าทั้งหมด และปัจจุบัน ME กำลังอยู่ใน Sandbox หรือเฟส 2 ของการพัฒนาสู่ Full EKYC ที่สามารถเปิดบัญชีได้ด้วยบัตรประชาชนและสมาร์ทโฟนโดยไม่ต้องมายืนยันตัวตนที่สาขา ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้ได้ในไตรมาส2ปีนี้
สำหรับในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา Me by TMB มีจำนวนลูกค้ามากกว่า 360,000 บัญชี เติบโตเฉลี่ย 22% มีดอกเบี้ยจ่ายให้กับลูกค้าไปแล้วรวม 4,490 ล้านบาท มีผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัลผ่าน 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ บัญชี ME SAVE บัญชีเงินฝากดิจิทัลที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 4.5 เท่า
และเมื่อกลางปีก่อนได้เปิดบริการบัญชี ME SAVE บัญชีเพื่อใช้จ่ายพร้อมฟีเจอร์ Balance sweep ที่ช่วยปัดเงินที่ยังไม่ใช้ไปเก็บที่ ME SAVE เพื่อรับดอกเบี้ยสูง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมียอดบัญชี 48,000 บัญชี มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 40,000 บัญชี และส่งผลให้ลูกค้าทำธุรกรรม ME เพิ่มขึ้น 70% และล่าสุด ปลายปีที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัว ME SURE ซื้อประกันผ่านแอพพลิเคชั่น
ทั้งนี้ จากจำนวนลูกค้ารวมของ ME เป็นลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 73% เนื่องจากสะดวกต่อการเปิดบัญชีที่ต้องมาแสดงตัวในครั้งแรก และเป็นลูกค้าในพื้นที่ต่างจังหวัด 27% ซึ่งหากมีการนำ E KYC มาใช้ก็สะดวกต่อลูกค้าต่างจังหวัดมากขึ้น และอายุของกลุ่มลูกค้า ME ส่วนใหญ่ 51% อยู่ระหว่าง 18-34 ปี
"ในเรื่องของดอกเบี้ยนั้น ขณะนี้ดรายังไม่มีแผนที่จะปรับขึ้น แต่ก็จะต้องดูที่แนวโน้มดอกเบี้ยและการแข่งขันระดมเงินฝากของระบบด้วย และที่สำคัญคือ เราต้องมีอะไรที่มากกว่าดอกเบี้ย หรือไปไกลกว่าการให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าเท่านั้น"