ทิศทางราคาทองคำยังเป็นบวกหลังเฟดส่งสัญญาณชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย กดดันดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า จับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯและจีนหากปรับตัวลดลงอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก จดกดดันสินทรัพย์เสี่ยงหนุนราคาทองคำขยับตัวขึ้นไปต่อ
"วรุต รุ่งขำ"ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำว่า ภาพรวมราคาทองคำที่ผ่านมา แนวโน้มค่อนข้างสดใส โดยทองคำมีการทะยานขึ้นสร้างระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 9 เดือน และมีการยกระดับสูงสุดจากสัปดาห์ก่อนหน้า และเดือนก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าราคาทองคำมีการปิดตลาดในเดือนมกราคมในแดนบวกเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เพราะได้รับแรงหนุนจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีการส่งสัญญานในการชะลอในส่วนของอัตราดอกเบี้ยและปรับเปลี่ยนการปรับลดงบดุล สถานการณ์ดังกล่าวเท่ากับ เฟดจะชะลอในส่วนของการดึงสภาพคล่อง อีกทั้งทิศทางดังกล่าวส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯมีการปรับฐานและอ่อนตัวลงจนเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้น
นอกจากนี้ทองคำถึงแม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาแต่การอ่อนตัวลงหรือชะลอตัวลงของราคาทองคำมีไม่มากนัก โดยทองคำได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์เกี่ยวกับการเจรจาการค้า ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี ระหว่างสหรัฐฯและจีนที่คลี่คลายลงบ้าง
สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเริ่มเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจทั้งในฝั่งสหรัฐฯและฝั่งจีนที่ชะลอตัวลง หากในสัปดาห์นี้ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งฝั่งจีนและสหรัฐฯยังคงมีทิศทางเป็นลบหรือชะลอตัวลงต่อ ความวิตกกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะเพิ่มสูงขึ้น และอาจจะเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่กลับไปกดดันการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงหรือตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้งจนอาจจะเป็นปัจจัยหนุนในส่วนของตัวตลาดทองคำเพิ่มเติม
ทำให้แนะนำให้จับตาดูสถานการณ์การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนหลังจากสภานิติบัญญัติของอังกฤษเสนอให้นายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ กลับไปเจรจา Brexit กับสหภาพยุโรปอีกครั้ง แต่ยังคงได้รับการปฎิเสธจากสหภาพยุโรป ขณะที่การซื้อขายทองคำในตลาดเอเชียอาจจะเบาบางลงเนื่องในเทศกาลตรุษจีน และจีนปิดทำตลาดทั้งสัปดาห์ซึ่งส่งผลให้แนวโน้มหรือโมเมนตั้มการซื้อขายทองคำอาจจะเบาบางลงหรือลดลงเช่นกัน
ขณะเดียวกันในส่วนของการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ยังคงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ยังคงต้องจับตา หลังจากธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ส่งสัญญานการชะลอการคุ้มเข้มนโยบายการเงิน ซึ่งการคุ้มเข้มนโยบายการเงินของ BOE ยังคงเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่ส่งผลต่อสกุลเงินปอนด์และราคาทองคำ
ในส่วนของกลยุทธ์การลงทุน YLG ให้แนวรับบริเวณ 1,302 /1,276 และ 1,256 เหรียญ แนวต้านประเมินไว้ระดับ 1,334/1,356 และ 1,380 เหรียญ อย่างไรก็ตามแม้ทองคำจะมีการปรับขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง แต่พอราคาทองคำขยับหรือปรับตัวได้ช่วงหนึ่งมักจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา ดังนั้นควรจับตารแรงซื้อ แรงขาย หากแรงขายยังไม่มากนัก และราคาอ่อนตัวลงไม่ต่ำกว่า 1,302 เหรียญ แสดงว่ายังคงมีแรงรับเข้าซื้อ หรือแรงเข้าซื้อพยุงราคาไว้ แต่ถ้าหากราคาขยับหรือดีดตัวขึ้นให้จับตาดูแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,334 เหรียญ ว่าจะผ่านได้หรือไม่ หากไม่ผ่านอาจแบ่งทองคำขายบางส่วนเพื่อรอเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงเข้าใกล้กรอบด้านล่าง แต่หากราคาดีดตัวขึ้นจนผ่านแนวต้านดังกล่าว สามารถชะลอการขายไปที่แนวต้านถัดไประดับ 1,356 เหรียญ