สแกน อินเตอร์ มั่นใจไตรมาส 1 ปี 62 รายได้จะเติบโตโดดเด่น จากศักยภาพการดำเนินธุรกิจขยายตัวตามแผน หลังกลุ่มธุรกิจยานยนต์ และธุรกิจพลังงานหมุนเวียน เข้ามาช่วยเติมเต็มความแข็งแกร่งจากการ COD โรงไฟฟ้ามินบู ที่พม่า เฟสแรก และรายได้จากการส่งมอบรถเมล์งวด 3 อีก 100 คัน พร้อมเตรียมส่งมอบลอตสุดท้าย อีก 189 รวมทั้งสิ้น 489 คัน ภายในมีนาคมนี้ทั้งหมด
นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ มั่นใจว่าจะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดจากศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง โดยจะสะท้อนให้เห็นตั้งแต่ในไตรมาสแรกปีนี้ที่คาดว่า ผลการดำเนินงานจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ NGV ให้แก่ ขสมก. ที่จะบันทึกการรับรู้รายได้จากการส่งมอบรถเมล์ลอตที่ 3 อีกจำนวน 100 คัน หลังส่งมอบรถเมล์แล้วเสร็จในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และจะสามารถส่งมอบรถเมล์ที่เหลืออีก 189 คันได้ภายในไตรมาสแรก และจะบันทึกเป็นรายได้ทั้งหมดในปีนี้
ขณะที่กลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียน จะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวให้แก่บริษัทฯ จากการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์มินบู ประเทศพม่า ขนาด 220 MW หนึ่งในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เข้าสู่ระบบในเฟสแรก จำนวน 50 MW ภายในไตรมาส 1/62 ตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที
ส่วนกลุ่มธุรกิจพลังงาน จะมี iCNG หรือธุรกิจก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับอุตสาหกรรม เป็นแรงสำคัญในการผลักดันการเติบโตในกลุ่มธุรกิจนี้ โดยเป็นผลมาจากปริมาณความต้องการใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติในโรงงานอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการขายของปีที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 40-50% และเชื่อว่าปีนี้จะสามารถเติบโตได้ในระดับที่ดียิ่งขึ้น
“ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ เรามั่นใจว่าจะรักษาอัตราการเติบโตที่ดีไว้ได้เช่นเดิม จาก 3 ปัจจัยหลักที่เข้ามาสนับสนุนจากการรับรู้รายได้ ได้แก่ การส่งมอบรถเมล์ NGV ให้แก่ ขสมก. การขายไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้ามินบู เฟสแรก 50 MW และ iCNG ที่เชื่อมั่นว่าจะมีปริมาณความต้องการใช้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด” นายฤทธี กล่าว