บอร์ด PPP อนุมัติการลงทุนแบบ Fast Track ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี ซึ่งมีวงเงินลงทุนรวม 2.35 แสนล้านบาท พร้อมยังได้อนุมัติการต่ออายุสัญญาการเช่าที่ดินบริเวณโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ซึ่งจะหมดสัญญาเช่าในปี 64 ต่อไปอีก 20 ปี
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมลงทุนภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) กล่าวถึงผลการประชุมฯ วันนี้ (21 ม.ค.) ว่าได้อนุมัติการอนุมัติให้ลงทุนแบบ Fast Track ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนท์-มีนบุรี ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันออก คือ ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีนั้น ปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยรูปแบบการลงทุนของรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก จะเป็นการลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐลงทุนค่างานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธา และค่างานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถไฟฟ้า บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาทั้งเส้นทาง โดยจะมีระยะเวลาสัญญาเดินรถ 30 ปีนับตั้งแต่ได้เริ่มเปิดให้บริการโครงการในส่วนตะวันออกแล้ว
นอกจากนี้ เอกชนจะทำหน้าที่เป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสาร รายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งหมด ทั้งนี้ ภาครัฐจะไม่มีภาระในการสนับสนุนทางการเงินแก่เอกชนในส่วนงานระบบรถไฟฟ้า และขบวนรถไฟฟ้า รวมถึงส่วนงานเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มทั้งเส้นทาง
สำหรับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะช่วยเชื่อมโยงการเดินทางของกลุ่มผู้โดยสารในเขตที่อยู่อาศัยย่านชานเมืองฝั่งตะวันออกและตะวันตก ซึ่งจะทำให้การเดินทางเข้าสู่บริเวณศูนย์กลางเมืองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเติมเต็มโครงข่ายการเดินทางฝั่งตะวันออก และตะวันตก ด้วยระบบรางให้มีความสมบูรณ์
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวเพิ่มเติมถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 62 โดยคาดหมายว่าจะสามารถขยายตัวได้ในระดับ 4% อย่างไรก็ตาม ยังเห็นว่า การคาดการณ์ของธนาคารโลก ที่ระบุถึงอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยจะอยู่ที่ 3.8% นั้น ถือเป็นตัวเลขคาดการณ์ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงพอสมควรแล้ว
นายสมคิด ยังย้ำด้วยถึงสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจไทยยังสามารถขยายตัวได้ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกนั้น เกิดจากการวางแผนของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจภายใน เพื่อสร้างความสมดุลกับเศรษฐกิจภายนอก โดยการสร้างการลงทุนภายในประเทศในช่วงที่ผ่านมานั้น รัฐบาลไม่ได้สร้างให้เกิดแต่เฉพาะการลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) เพียงอย่างเดียว แต่รัฐบาลยังได้พยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ และการลงทุนภายในประเทศอีกหลายโครงการอีกด้วย
ด้านนางปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงมติของคณะกรรมการพีพีพีว่า ที่ประชุมฯ ยังได้อนุมัติการต่ออายุสัญญาการเช่าที่ดินบริเวณโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ซึ่งจะหมดสัญญาเช่าในปี 2564 ต่อไปอีก 20 ปี หลังจากที่ให้เช่าที่ดินมาแล้ว 30 ปี โดยมอบหมายให้บริษัท สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด และคณะกรรมการคัดเลือกได้ทำการพิจารณาคัดเลือกเอกชนอย่างรอบคอบ และเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังเห็นชอบกับการดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยและพาณิชกรรม ตามแนวเส้นทางโครงข่ายรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (Transit- Oriented Development : TOD) ในกรุงเทพฯ และปริมลฑล ระยะที่ 2 ของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ตามแนวทาง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-วงแหวนกาญจนภิเษก มูลค่า 1.28 แสนล้านบาทนั้น คาดว่าจะสามารถนำเสนอให้คณะกรรมการฯ พิจารณาได้ภายในต้นปี 62
