xs
xsm
sm
md
lg

ทิสโก้แจ้งกำไรปี 61โตร้อยละ 15-รายได้เพิ่ม-รับรู้รายการพิเศษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทิสโก้รายงานผลกำไรงวดปี 61 จำนวน 7.01 พันล้าน เพิ่มขึ้น 15.2% จากการรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และรับรู้รายได้จากการขายธุรกิจบัตรเครดิต ขณะที่เอ็นพีแอล อยู่ที่ระดับ 2.86% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 2.32%

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TISCO) แจ้งผลการดำเนินปี 2561 บริษัทมีกำไรสุทธิ 7,015.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 925.68 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15.2% เมื่อเทียบปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจหลัก และการรับรู้กำไรพิเศษจากเงินลงทุน และการขายธุรกิจ โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ที่ 12,614.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบปีก่อนหน้า จากความสามารถในการรักษาอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรวม และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับการรับโอนธุรกิจลูกค้ารายย่อยจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) อีกทั้งบริษัทมีการรับรู้รายได้พิเศษจากการขายธุรกิจบัตรเครดิต

ขณะที่รายได้ทีมิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ 0.7% จากรายได้ธุรกิจวาณิชธนกิจที่ลดลง และค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองหนี้สูญลดลง 12.3%ตามการบริหารคุณภาพสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นปี 2561 มีจำนวน 240,654 ล้านบาท ลดลง 10,729 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.3% จากสิ้นปีก่อนหน้า โดยสาเหตุหลักมาจากการโอนขายสินเชื่อบุคคล และสินเชื่อบัตรเครดิต รวมถึงภาวะตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่มีการแข่งขันสูง และการตัดหนี้สูญจากสินเชื่อรายย่อย และธุรกิจขนาดกลางและย่อม ทั้งนี้ สัดส่วนสินเชื่อของบริษัทแบ่งเป็น สินเชื่อรายย่อย 75.9% มียอดคงค้างรวม 182,743.81 ล้านบาท ลดลง 2.9% จากการลดลงของสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก สินเชื่อธุรกิจ 16.6% มียอดคงค้างรวม 39,961.73 ล้านบาท ลดลง 10.4% จากการชำระหนี้คืนของสินเชื่อกลุ่มการเกษตร, เหมืองแร่, อสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้าง

สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและย่อม 6.2% มียอดคงค้างรวม 14,865.66 ล้านบาท ลดลง 1.6% จากการตัดหนี้สูญเพื่อควบคุมคุณภาพ และสินเชื่ออื่นๆ 1.3% มียอดคงค้าง 3,083.13 ล้านบาท ลดลง 11%

ขณะที่จากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มีจำนวน 6,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,046.85 ล้านบาท หรือเท่ากับ 18% คิดเป็นสัดส่วน 2.86% จากสิ้นปีก่อนหน้าที่อยู่ในระดับ 2.32% เนื่องจากบริษัทได้ปรับปรุงวิธีการจัดชั้นคุณภาพสินทรัพย์ของสินเชื่อแบบผ่อนชำระให้มีความเข้มงวดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงรักษาอัตราส่วนเงินสำรองรวมของธนาคารต่อสำรองพึงกันตามเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย ในระดับสูงที่ร้อยละ 230

สำหรับเงินฝากรวมมีจำนวน 198,921.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,704.47 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.7%
กำลังโหลดความคิดเห็น