สมาคมธนาคารไทย มั่นใจแบงก์พาณิชย์ พิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างรอบคอบ เน้นคำนึงถึงต้นทุนและความสามารถการแข่งขัน ด้านประธานสมาคมธนาคารไทยสั่งสอบกรณีเงินหายจากบัญชี และดำเนินคดีหากพบทุจริต ยันแบงก์พร้อมคืนเงินให้ลูกค้าทุกบาท
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทยกกล่าวว่า ช่วงนี้ธนาคารพาณิชย์ยังคงดูแลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง เชื่อว่าแต่ละแห่งคงพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงรายได้ ต้นทุนค่าใช้จ่าย และความสามารถในการแข่งขัน เพราะการปรับดอกเบี้ยเงินกู้มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง โดยปกติกลไกการที่จะปรับขึ้นหรือลง จะส่งผ่านทางนโยบายคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แต่ละครั้งมีสาเหตุในการปรับอย่างไร ถ้าย้อนไปดูสถิติที่ผ่านมาก็มีการขึ้นดอกเบี้ยตามกันบ้าง ไม่ตามกันบ้าง อย่างกรณีครั้งนี้ มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากแต่ไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้
"ธนาคารพาณิชย์ยังไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ ธนาคารแต่ละแห่งมีต้นทุนเรื่องดอกเบี้ยแตกต่างกัน รวมทั้งมีเรื่องกลไกตลาด การแข่งขันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย" นายปรีดี กล่าว
ส่วนการขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากของบางธนาคารขึ้นอยู่กับความสามารถต่างๆของกิจการ บางครั้งการขึ้นดอกเบี้ยที่แตกต่างกันเพียงจุดทศนิยมที่ไม่มากนักคงต้องดูในรายละเอียด ส่วนตัวคิดว่ากลไกตลาดคือทุกคนอยู่ในสภาพการแข่งขัน ถ้าธนาคารไหนให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงกว่าลูกค้าก็จะทยอยมาฝากเงิน แต่ถ้าธนาคารใดรู้สึกสูญเสียว่าลูกค้าไม่มาฝากเงินก็ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากเพื่อดึงลูกค้า เป็นกลไกปกติของการแข่งขันอยู่แล้ว
" การจะคาดเดาว่าใครปรับขึ้นดอกเบี้ยกันอีกมั้ยก็คงเร็วเกินไปที่จะพูด เพราะถ้ามองจากสภาพเศรษฐกิจโลกแม้กระทั่งของสหรัฐฯ ที่บอกว่าจะปรับแต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ขณะเดียวกันของประเทศไทยก็คงยังไม่เกิดในช่วงสั้นๆนี้ "
ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนจากลูกค้าธนาคารที่มีเงินหายไปจากบัญชี โดยที่ลูกค้าไม่ได้ทำรายการเบิกถอนนั้น ธนาคารต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าพบว่าลูกค้าไม่ได้เป็นผู้ทำรายการ ธนาคารต้องรับผิดชอบนำเงินคืนเข้าบัญชีลูกค้าให้เรียบร้อย และหากตรวจสอบพบว่าเป็นความผิดพลาดของพนักงานทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจจะมีกระบวนการตรวจสอบจากธนาคาร ซึ่งธนาคารแต่ละแห่งให้ความสำคัญในเรื่องนี้ หากพบพนักงานมีการทุจริตต้องถูกลงโทษถือเป็นคดีความอาญา และดำเนินการตามขั้นตอน
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธปท.กล่าวว่า ตามปกติสถาบันการเงินจะมีกระบวนการภายใน เพื่อดำเนินการสอบสวนเรื่องทุจริตและมีบทลงโทษอยู่แล้ว ในส่วนของ ธปท.ให้ความสำคัญต่อผลการสอบสวนและสาเหตุที่ทำให้เกิดการทุจริตและการดำเนินการแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหา เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก หาก ธปท.ตรวจสอบพบการทุจริตจะออกคำสั่งให้สถาบันการเงินดำเนินการต่อไป