xs
xsm
sm
md
lg

แมลงเม่าบินเข้า TFEX / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“หุ้น” ครองความเป็นสินค้าที่มีการซื้อขายสูงสุดในประเทศไทย มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยวันละ 5 หมื่นล้านบาท แต่ปีนี้คาดว่า มูลค่าซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ หรือตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) จะแซงหน้าการซื้อขายหุ้น


เพราะนักลงทุนรายย่อยที่ซื้อขายเก็งกำไรระยะสั้น กำลังหันหลังให้ตลาดหุ้น เบนเข็มสู่การแลกหมัดวัดดวงในตลาดอนุพันธ์ ซึ่งได้เสียเร็วกว่า รวยหรือจนเกิดขึ้นได้ภายในพริบตา



สัญญาซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ ประกอบด้วย เดริเวทีฟ วอแรนต์ (Derivative Warrants : DW) สัญญาซื้อขาย SET 50 FUTURES และ SINGLE STOCK FUTURES


ปี 2561 มูลค่าการซื้อขายในตลาด TFEX มีสัดส่วนประมาณ 80% ของมูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้น ซึ่งมีมูลค่า 57,673 ล้านบาท โดยมูลค่าซื้อขายตลาด TFEX เฉลี่ยวันละ 426,213 สัญญา เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ในสัดส่วน 31.5%


สินค้าทุกตัวในตลาด TFEX เติบโตหมด ทั้ง DW , SET 50 FUTURES และ SINGLE STOCK FUTURES


การย้ายแหล่งเก็งกำไร จากตลาดหุ้นสู่การเล่นได้เสียในตลาด TFEX ทำให้สัดส่วนมูลค่าการซื้อขายหุ้นของนักลงทุนรายย่อยลดฮวบลง เหลือเพียง 41.02 % ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นรวม จากปี 2560 ที่มีมูลค่าซื้อขายหุ้นสัดส่วน 48.31 % โดยในอดีต สัดส่วนมูลค่าการซื้อขายนักลงทุนรายย่อย เคยอยู่ในระดับ 70 % ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นทั้งหมด



มูลค่าการซื้อขายในตลาดตราสารอนุพันธ์ที่เติบโต และกำลังจะแซงหน้าการซื้อขายในตลาดหุ้น อาจสะท้อนความสำเร็จของผลิตภัณฑ์สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่อิงกับหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์และอิงกับ ดัชนี 50



แต่เป็นการเติบโตที่ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ ผู้บริหารตลาด TFEX หรือแม้แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐบาลไม่ควรจะภาคภูมิใจนัก


เพราะตลาด TFEX ที่เติบโต เป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนในตลาดหุ้น ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม กลายเป็นนักเก็งกำไร หมกมุ่นกับการเล่นได้เสียเหมือนนักพนันมากขึ้น

และจะทำให้ ตลาดTFEX แปรรูปเป็นบ่อนการพนันที่ถูกกฎหมายใหญ่ที่สุดในประเทศ



สัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX แตกต่างจากหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เพราะสัญญาฯ TFEX มีระยะสั้น 3 เดือน 6 เดือนหรือไม่เกิน 1 ปี จึงไม่อาจลงทุนระยะยาวได้


นอกจากซื้อขายเพื่อการเก็งกำไรระยะสั้น โดยไม่มีเงินปันผล ไม่มีค่า พี/อี เรโชให้ประเมิน ไม่มีปัจจัยพื้นฐานที่จะวิเคราะห์ความเหมาะสมของราคา


แรงกระตุ้นที่ทำให้นักเก็งกำไรระยะสั้นในตลาดหุ้น ย้ายพอร์ตเข้าไปสู่ตลาด TFEX คือใช้เงินลงทุนน้อย แต่มีโอกาสได้เสียมาก โดยใช้เงินลงทุนเพียง 5% - 10% แต่สามารถซื้อหุ้นได้ 100% ขณะที่การซื้อขายหุ้น แม้จะใช้สินเชื่อเพื่อการซื้อหุ้น (มาร์จิ้น) แต่ต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 50%



การซื้อขายสัญญาในตลาด TFEX จึงเหมือนกับการได้ใช้ซุปเปอร์มาร์จิ้น วางหลักทรัพย์เพียง 5 % หรือ 10 % สามารถซื้อสัญญาล่วงหน้าได้ 100 %



ถ้าคาดการณ์ทิศทางการขึ้นลงของ TFEX ได้ มีโอกาสรวยภายในข้ามคืน แต่ถ้าคาดการณ์ผิด หมดตัวได้ในชั่วพริบตาเหมือนกัน


นักลงทุนที่เล่น TFEX มักเป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ อายุประมาณ 30 ปี บวกลบ 5 ปี ส่วนนักลงทุนรุ่นเก่า ไม่กล้าเสี่ยง เพราะกลัวความหวือหวาของการขึ้นลง และรู้ดีว่า สัญญาล่วงหน้า เป็นตราสารที่อันตราย ไม่เหมาะกับนักลงทุนผู้สูงวัย



เพราะอาจหัวใจวายกับการแกว่งตัวขึ้นลงอย่างวูบวาบของราคา



โบรกเกอร์หลายแห่ง พยายามให้คำแนะนำลูกค้า เตือนให้ระวังการเก็งกำไร TFEX


บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด แม้จะเปิดให้บริการซื้อขายมาหลายปี แต่ไม่ยอมเปิดบัญชีซื้อขาย TFEX เพื่อปกป้องความเสียหายให้ลูกค้าตัวเอง เพราะรู้ดีว่า นักลงทุนรายย่อย ไม่มีโอกาสสู้นักลงทุนรายใหญ่ ต่างชาติและกองทุนรวม ซึ่งมีหุ้นจำนวนมากอยู่ในมือ และสามารถกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวของสัญญาล่วงหน้าได้


แต่ลูกค้าพยายามเรียกร้องขอให้เปิดบัญชี TFEX ซึ่งไม่รู้ว่า ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล ยังทนการรบเร้าได้หรือไม่ ยอมเปิดบัญชีซื้อขาย TFEX สนองตอบความต้องการของลูกค้าหรือยัง


คนบางกลุ่ม อาจมีความสุขที่ได้เห็นตลาด TFEX เติบโต แต่คนกลุ่มหนึ่งกำลังเป็นทุกข์  เพราะการเติบโตของตลาด TFEX อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการพองโตของภาวะฟองสบู่ และการคืบคลานสู่หายนะของการเก็งกำไรครั้งใหญ่


สถาบันการลงทุนเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี ของอังกฤษ “แบริ่ง ซีเคียวรีตี้” เคยล่มสลายมาแล้ว ด้วยฝีมือของพนักงานเพียงคนเดียว ซึ่งผิดพลาดในการลงทุนสัญญาล่วงหน้า สร้างความเสียหายจนบริษัทรับผลขาดทุนไม่ไหว



แต่นักลงทุนรายย่อยในประเทศไทย กลับกำลังแห่เข้าไปเก็งกำไรในตลาด TFEX เหมือนแมลงเม่ายกฝูงบินเข้ากองไฟ


ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์และตลาดอนุพันธ์ จึงไม่ควรสบายใจกับการเติบใหญ่ของTFEX แต่ควรตระหนักถึงหายนะที่ก่อตัวขึ้นแล้ว



กำลังโหลดความคิดเห็น