ตลาดหุ้นปี 2561 ปิดฉากลงแล้ว และเป็นอีกปีที่ไม่ดีของนักลงทุน เพราะขาดทุนกันถ้วนหน้า โดยดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ ฯ สิ้นสุดลงที่ระดับ 1,563.88 จุด ทรุดตัวลง 10.82% เมื่อเทียบกับจุดปิดสิ้นปี 2560
แม้ว่าปี 2560 บรรยากาศการซื้อขายหุ้นจะคึกคัก เพราะช่วงท้ายปี มีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามา ทำให้ช่วง 4 เดือนสุดท้าย ดัชนีหุ้นทะยานขึ้น ก่อนจะปิดที่ 1,753.71 จุด เพิ่มขึ้นประมาณ 13% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2559 ที่ดัชนีปิดที่ 1,542.94 จุด
ปี 2561 ตลาดหุ้นเริ่มต้นด้วยดี ดัชนีหุ้นพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงต่อเนื่องจากปลายปี 2560 และสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,830 จุดเศษ แต่หลังจากนั้นเจอมรสุมข่าวร้ายกระหน่ำ พร้อมกับการเทขายของต่างชาติ จนราคาหุ้นดิ่งลง โดยเฉพาะช่วงปลายปี ซึ่งข่าวร้ายปะดังเข้ามา และทำให้ตลาดหุ้นปั่นป่วนอย่างหนัก เป็นหนังคนละม้วนกับช่วงต้นปี
นักลงทุนต่างชาติถล่มขายตลอดปี มียอดขายหุ้นสุทธิรวมทั้งสิ้น 287,458.82 ล้านบาท และเป็นยอดขายที่สูงสุดในรอบ 43 ปี นับแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ
ถ้าย้อนกลับไปดูตลาดหุ้นทั่วโลกปี 2561 ทุกตลาดแย่พอกัน เผชิญผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ วิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาค่าเงินในประเทศเกิดใหม่หลายประเทศ รวมทั้งความหวั่นไหวในสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ฯ ไปด้วยกัน
และตลาดหุ้นส่วนใหญ่ร่วงหนักกว่าตลาดหุ้นไทย โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐ ลดลง 5.63% อังกฤษลง 12.48% เยอรมันร่วง 18.26% ญี่ปุ่นรูดลง 12.08% ฮ่องกงลง 13.61% และจีนทรุดหนัก 25.31%
ความจริงตลาดหุ้นปี 2561 ถูกประเมินด้วยภาพที่สดใส บรรดากูรูหุ้นบริษัทโบรกเกอร์ส่วนใหญ่มองโลกสวย ทำนายว่า ดัชนีหุ้นปลายปีจะขึ้นทะลุระดับ 1,900 จุด สำนักวิจัยโบรกเกอร์บางราย ฟันธงว่าจะพุ่งเหนือ 2,000 จุดด้วยซ้ำ
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นปี 2562 โบรกเกอร์หลายสำนักออกคำทำนายมาแล้ว คาดการณ์ว่า ดัชนีหุ้นปลายปีจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,760 จุด และหลายสำนักมองว่า จะพุ่งขึ้นไปแถว 1,850 จุด หรือเพิ่มขึ้นจากจุดปิดสิ้นปี 2561 ประมาณ 200-300 จุด
ปัจจัยสนับสนุนการมองแนวโน้มตลาดหุ้นปีนี้ในเชิงบวก เกิดจากความคาดหมายเศรษฐกิจจะเติบโตระดับ 4% ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 7% และผลกระทบจากปัจจัยภายนอกจะลดลง
เพราะปีนี้ตลาดหุ้นไทยอ่วมอรทัยจากปัจจัยภายนอกมากพอแล้ว แต่คำแนะนำการลงทุนโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ ยังเน้นไปที่การเลือกหุ้นรายตัวเป็นสำคัญ โดยเลือกลงทุนหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก หรือบริษัทจดทะเบียนที่มีโอกาสเติบโตสูง
อย่างไรก็ตาม บรรดากูรูหุ้นระดับโลกมีคำเตือนว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกปีนี้ ยังไม่พ่วงบ่วงกรรม โดยการปรับตัวลงรุนแรงในช่วงปลายปีที่ผ่านมา อาจเป็นเพียงระยะเริ่มต้นของ “ขาลง” เท่านั้น นักลงทุนจึงต้องระมัดระวังความเสี่ยง
หุ้นปี 2562 อาจลงต่อได้ โดยเฉพาะช่วงต้นปี บรรดากูรูหุ้นจากบริษัทโบรกเกอร์ต่าง ๆ อาจถูกหักปากกาเซียนซ้ำรอยปี 2561 ก็ได้ เพราะสัญญาณดี ๆ ในการลงทุนยังไม่มี
การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ไม่น่าจะเป็นข่าวดีที่ดึงให้นักลงทุนต่างชาติขนเงินกลับเข้ามาลงทุน แต่ถ้าต้องเลื่อนการเลือกตั้ง จะเป็นข่าวร้ายชิ้นใหญ่
ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศถูกประเมินว่า จะซบเซาหนักกว่าปีก่อน สิ่งที่ดี ๆ มีเพียง ระดับราคาหุ้นที่ทรุดลงมาอยู่ในระดับต่ำเท่านั้น จนค่า พี/อี เรโช เฉลี่ยของตลาดอยู่ที่ระดับ 14 เท่าเศษ กลายเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จูงใจซื้อหุ้น และถ้าการเมืองไม่วุ่นวาย เศรษฐกิจไม่ฟุบหนัก ระดับ 1,500 จุดเศษ น่าจะเป็นแนวรับของดัชนี ฯ ที่แข็งแกร่ง
แต่ใครจะบอกได้ว่า การเมืองหลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ใครบอกได้ว่า เศรษฐกิจปีหน้าจะไม่แย่ไปกว่าปีนี้
ดังนั้นนักลงทุนอย่ามองโลกในแง่ดีเกินไป เพราะแม้จะเป็น “ปีหมู” แต่ถ้าไม่ระวังตัว ทุกคนมีโอกาสถูกหมูกัดซ้ำแผลเก่า