บล. เคทีบี มอง SET เปิดสัปดาห์แรกของปีใหม่ ยังมีความผันผวนจากปีเก่าตามมา ตลาดจับตาปัจจัยหลัก คือ การเจรจาการค้าสหรัฐฯ กับจีน ในวันที่ 7 ม.ค. หากเป็นบวกจะหนุนตลาดหุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์ มองกรอบดัชนีในสัปดาห์นี้ 1,550-1,584 จุด แนะเลือกหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวหรือมีกำไรที่มั่นคง
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ทำการแรก (2-4 ม.ค.) ของปี 2562 ว่า ปัจจัยต่างประเทศยังมีผลต่อทิศทางดัชนีอยู่ ประเด็นสำคัญที่ตลาดจะให้ความสนใจมาก คือ การเจรจาการค้าของสหรัฐฯ กับจีนในวันที่ 7 ม.ค.2562 ซึ่งจะนำไปสู่การทำข้อตกลงระหว่าง 2 ประเทศ หากเจรจาประสบความสำเร็จ จะมีน้ำหนักในทางบวกต่อตลาด แต่อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการใช้นโยบายภาษีสหรัฐฯ กับจีน ยังมีผลต่อเศรษฐกิจ และการค้าของโลกไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากผลของสงครามการค้านั้นไม่เพียงแต่มีผลต่อตลาดหุ้น แต่มีผลต่อเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2562 มีน้อยลงอาจเหลือเพียง 1-2 ครั้ง ขณะเดียวกัน ยังส่งให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง แต่หากเจรจาการค้ามีแนวโน้มเป็นผลสำเร็จ ดัชนีตลาดหุ้นและราคาผลิตภัณฑ์จะปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนปัจจัยในประเทศนั้น ตลาดกำลังติดตามเรื่องผลโพลการเลือกตั้งว่า ใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง หากเป็นไปในทิศทางที่หนุนตลาด เชื่อว่า นักลงทุนจะกลับเข้ามาซื้อหุ้นหลังจากที่ชะลอการซื้อไปในเดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หลังจากมีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้งออกมา ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงสัปดาห์แรกของ ม.ค.นี้ จะทำให้นักลงทุนอาจตอบรับต่อความชัดเจนของวันเลือกตั้งที่คาดไว้ว่าเป็นวันที่ 24 ก.พ. ดังนั้น การลงทุนในสัปดาห์แรกของปี 2562 ตลาดหุ้นจะมีวันทำการเพียง 3 วัน คาดว่า ตลาดยังมีความผันผวน โดยมองกรอบดัชนีในสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวที่ 1,550-1,584 จุด
อย่างไรก็ตาม หากตัวแปรหลักๆ อย่างเรื่องการเจรจาการค้าสหรัฐฯ กับจีน และทิศทางการเมืองของไทยเป็นผลบวก ตลาดพร้อมจะปรับตัวขึ้น โดย KTBST แนะนำให้ “ถือ” เพื่อรอดูจังหวะในการซื้อ หรือขายหุ้น และยังคงแนะนำให้เลือกลงทุนหุ้นโดยเน้นหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว หรือมีกำไรที่มั่นคงไว้ก่อน
สำหรับหุ้น KTBST มองว่าน่าสนใจในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย GULF, BJC, MTC, SEAFCO, ERW, THG, THANI