“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ยิ้มรับ โครงการบ้านล้านหลัง ประสบความสำเร็จ ดีมานด์ต้องการสินเชื่อพุ่ง พร้อมสั่งให้ ธอส. ศึกษาขยายโครงการต่อ ด้าน ธอส. รับลูก พร้อมขยายวงเงินเพิ่มเฟส 2 รองรับความต้องการซื้อบ้าน หลังยอดขอสินเชื่อเพียงครึ่งวันทะลุ 50,000 ล้านบาท และยอดแจ้งสิทธิยังไหลเข้ามาไม่หยุด คาดทะลุเกือบ 1.3 แสนล้าน เตรียมเสนอรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยเพื่อให้เงื่อนไขใกล้เคียงกลุ่มแรก หนุนประชาชนทุกกลุ่มมีบ้านอยู่อาศัย ขณะที่บริษัทอสังหาฯ รายกลาง จ่อปั๊มโครงการคอนโดฯ ราคาต่ำกว่าล้าน 20,000 หน่วย ร่วมโครงการ
วานนี้ (23 ธ.ค.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้เปิดให้ประชาชนได้จองสิทธิสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลัง รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท ภายใต้กรอบวงเงิน 50,000 ล้านบาท ซึ่งทางธนาคารให้จองสิทธิพร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 23 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. เพียงวันเดียว โดยปรากฏว่า โครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างล้นทะลัก โดยมีลูกค้ามารอคิวคนแรกเมื่อเวลา 3 ทุ่มของวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค.2561 โดยประชาชนได้เดินทางมายัง ธอส. ตลอดทั้งวัน
โดยดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมายัง ธอส. ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และเดินทางมาเยี่ยมชมการจองสิทธิของลูกค้าประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ณ ธอส. สำนักงานใหญ่ พระราม 9 ขณะที่ส่วนภูมิภาค เปิดจองสิทธิ ณ ที่ทำการสาขาของธนาคารทุกแห่ง ยกเว้นสาขาในห้างสรรพสินค้า หลังจากพบว่าได้มีประชาชนเดินทางมาจองสิทธิสินเชื่อบ้านล้านหลังตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (23 ธ.ค.) จนทำให้ยอดการจองสิทธิเกินเป้าหมาย กรอบวงเงิน 50,000 ล้านบาท เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ร้อยละ 3 ต่อปี นานสูงสุดถึง 5 ปีแรก จึงสั่งการให้ ธอส. ศึกษาแนวทางขยายการจองสิทธิให้เพียงพอต่อความต้องการบ้านของประชาชนทั้งรายย่อย ผู้สูงอายุ กลุ่มหนุ่มสาวเริ่มต้นทำงาน เมื่อชาวบ้านต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก คาดว่าจะทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เข้ามาร่วมโครงการมากขึ้น และถึงแม้ว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้น การลดภาระผ่อนบ้านด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงทำให้ความต้องการสูง เพราะช่วยลดภาระได้ถึง 5 ปี
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส. พร้อมพิจารณาขยายสินเชื่อเพิ่มเติมให้เพียงพออีก 50,000 ล้านบาท หลังจากสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลัง ที่ ธอส. เปิดให้จองสิทธิในวันนี้ วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ได้รับการตอบรับมาก โดยวงเงินยอดจองสิทธิทั่วประเทศ ณ เวลา 13.03 น. อยู่ที่ 50,043 ราย หรือคิดเป็นยอดขอสินเชื่อประมาณ 50,000 ล้านบาทเต็มกรอบวงเงินที่กำหนดไว้แล้ว และธนาคารจะเปิดรับจองสิทธิขอสินเชื่อแก่ผู้ที่เดินทางมาธนาคารในวันนี้ (24 ธ.ค.) ทั้งหมด สำหรับกลุ่มแรกที่ยื่นจองสิทธิวันนี้ ธอส. จะพิจารณาสินเชื่อให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน หรือประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จะพิจารณาได้ครบถ้วน สินเชื่อวงเงิน 50,000 ล้านบาทแรกนี้ ธอส. เสนอขอชดเชยภาระดอกเบี้ยจากรัฐบาล 3,800 ล้านบาท
โดยเมื่อเวลา 18.00 น. ยอดเงินจองสิทธิโครงการบ้านล้านหลัง เข้ามาทะลุ 120,000 ล้านบาท ซึ่งทาง ธอส. ได้หยุดรับบัตรคิวเพื่อตรวจสอบยอดส่วนที่เหลือ และคาดว่าตัวเลขจะมียอดเกือบ 130,000 ล้านบาท
สำหรับการเปิดวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรนเพิ่มเติมอีก 50,000 ล้านบาท ธอส. จะเสนอรัฐบาลพิจารณาชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารเหมือนกับโครงการบ้านล้านหลัง และยอมรับว่าอาจแตกต่างกัน เนื่องจากดอกเบี้ยสูงขึ้นเล็กน้อย
“ความต้องการบ้านล้านหลัง มีค่อนข้างมาก แสดงว่า คนไทยยังต้องการที่อยู่อาศัย โดยราคาต่ำกว่าล้านบาท ยังเป็นที่ต้องการของประชาชน แต่กระนั้น การจองสิทธิบ้านล้านหลังครั้งนี้ก็มีทั้งซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ ซื้อทรัพย์จากธนาคาร และบางรายมาจองเพื่อรับสิทธิอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ โดยหลังจากนี้อาจจะไปพิจารณาโครงการที่ตนเองต้องการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้ประกอบการภาคอสังหาฯ ให้ความสนใจที่จะสร้างโครงการรองรับบ้านล้านหลัง เช่น บริษัท รีเจ้นท์ กรีนทาวเวอร์ จำกัด ที่มีแผนจะผลิตสินค้าคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท กว่า 10,000-20,000 ยูนิต ออกมาในช่วงปี 2562-2563”
ทั้งนี้ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการ มีทั้งบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงบริษัทอสังหาฯ รายกลาง และเล็ก ที่ส่วนใหญ่นำห้องชุดใหม่ และห้องชุดหลุดดาวน์ มานำเสนอให้แก่ลูกค้า
ผู้ที่จองสิทธิกับทาง ธอส. เรียบร้อยแล้วนั้น ทางธนาคารฯ จะส่ง SMS แจ้งสิทธิ โดยทางเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาประเมินคุณสมบัติผู้กู้ภายใน 15 วัน จากนั้นผู้ขอสินเชื่อต้องนำหลักฐานมายื่นขอสินเชื่อในวันที่ 2 มกราคม 2562 เป็นต้นไป และ ธอส. เตรียมประกาศรายชื่อผู้ยื่นจองสิทธิงวดแรกวงเงิน 30,000 ราย ในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ จากนั้นจะพิจารณาภายใน 90 วัน จากนั้นจะเรียกกลุ่มต่อไปเพิ่มเติม
โครงการบ้านล้านหลังนั้นมีวงเงินทั้งหมด 50,000 ล้านบาท ซึ่งจะปล่อยสินเชื่อได้ไม่น้อยกว่า 50,000 คน สามารถกู้ได้รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่ถึง 25,000 บาทต่อคนต่อเดือน (กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท) จะได้รับอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-ปีที่ 5 คงที่ร้อยละ 3 ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระ 5 ปีแรก เริ่มต้นเพียง 3,800 บาท พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมทั้งหมด แต่หากรายได้เกิน 25,000 บาทต่อคนต่อเดือน (กรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท) จะได้รับอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-ปีที่ 3 คงที่ร้อยละ 3 ต่อปี เงินกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระ 3 ปีแรก เริ่มต้นเพียง 3,800 บาทเช่นกัน ซึ่งอัตราการผ่อนดังกล่าวค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับค่าเช่าทั่วไป
