ข่าวอื้อฉาวการเข้าไปพัวพันกับการฉ้อโกง “บิทคอยน์” ของนักธุรกิจชาวฟินแลนด์วงเงินประมาณ 800 ล้านบาท เงียบไปแล้ว แต่ประเด็นฉาวโฉ่ของบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA ยังไม่หมด เพราะกำลังถูกเพ่งเล็งในพฤติกรรมความไม่โปร่งใสในการขายทรัพย์สิน ขณะที่ราคาหุ้นทรุดลงอย่างหนัก เหมือนสัญญาณว่า กิจการจะไปไม่รอด
คณะกรรมการ DNA อยู่ระหว่างผลักดันมติ การขายหุ้น บริษัท ดีเอ็นเอ รีเทล ลิ้งค์ จำกัด (DRL) ซึ่งบริษัทถืออยู่ในสัดส่วน 79.99 % ของทุนจดทะเบียน ในราคา168 ล้านบาท ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นว่า ผู้ถือหุ้น DNA ไม่ควรอนุมัติการจำหน่ายหุ้น DRL
แต่คณะกรรมการ DNA ไม่ฟังเสียงคัดค้าน ดันทุรังที่จะขายทรัพย์สินให้ได้
บริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระระบุว่า การขายหุ้น DRL จะทำให้ DNA ไม่สามารถรับรู้รายได้และผลกำไรจากธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์ต่อพ่วง ซึ่งเป็นรายได้หลัก
และมีความเสี่ยงที่หุ้นจะถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ เพราะเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีสินทรัพย์ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดในรูปเงินสด
แต่คณะกรรมการ DNA ยืนกรานว่า การขายหุ้น DRL จะเป็นประโยชน์กับบริษัท เพราะธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริม มีส่วนแบ่งการตลาดไม่สูงและมีคู่แข่งหลายราย นอกจากนั้นกลุ่มบริษัทไม่มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอที่จะขยายกิจการ ทำให้ไม่สามารถแข่งขันและขยายตลาดได้
และเงินที่ได้จากการขายหุ้น DRL ยังสามารถนำไปชำระหนี้กลุ่มบริษัท ส่วนที่เหลือสามารถนำไปลงทุนในกิจการอื่นได้ นอกจากนั้นการกู้เงินจากสถาบันการเงิน อาจเป็นการยากลำบาก เพราะสถานะทางการเงินและผลดำเนินงานของบริษัทในปัจจุบัน
ไม่กี่เดือนก่อนหน้า ผู้บริหาร DNA เพิ่งคุยโม้ว่า บริษัทกำลังฟื้นตัว แนวโน้มผลประกอบการจะกลับมาสดใส แต่วันนี้เรียกร้องความเห็นใจในความจำเป็นที่จะต้องขายทรัพย์สิน เพราะฐานะการเงินของกลุ่มบริษัทไม่แข็งแรง
และถ้าไม่ได้เงิน 168 ล้านบาท จากการขายหุ้น DRL บริษัทอาจเผชิญชะตากรรมที่ลำบาก
หุ้น DNA เป็นที่รู้กันว่า ไม่ธรรมดา ราคาขึ้นลงอย่างหวือหวา และนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้บริหารโบรเกอร์ชื่อกระฉ่อน เคยเข้ามาป้วนเปี้ยนทำธุรกรรมซื้อขายหุ้น โดยนำหุ้นจำนวน 467 ล้านหุ้น ขายนักลงทุนชาวฟินแลนด์ที่เคยมีคดีฟ้องร้องฉ้อโกงบิทคอยน์กัน ในราคาเฉลี่ยประมาณหุ้นละ 1.35 บาท เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560
ราคาหุ้น DNA ช่วงที่มีธุรกรรมขายหุ้นระหว่างกลุ่มนายประสิทธิ์กับนักลงทุนชาวฟินแลนด์ ราคาหุ้นถูกลากขึ้นไปยืนเหนือ 1 บาท ทั้งที่ไม่มีข่าวดีสนับสนุน และผลประกอบการยังขาดทุนต่อเนื่องอีกด้วย
และแม้ในช่วงที่เกิดข่าวอื้อฉาวการฉ้อโกง “บิทคอยน์” ของนักลงทุนชาวฟินแลนด์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2561 ซึ่งเชื่อมโยงกับธุรกรรมการโอนหุ้น DNA ระหว่างกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ราคาหุ้นถูกลากขึ้นไปอย่างร้อนแรง พุ่งทะลุ 88 สตางค์ โดยปรับตัวขึ้น 100 % ในช่วง 4 วันทำการ
ไม่มีข่าวตลาดหลักทรัพย์เข้าไปตรวจพฤติกรรมการซื้อขายหุ้นตัวนี้ ไม่มีรายงานชี้แจงถึงความผิดปกติของราคาหุ้นแต่อย่างใด
หลังจากข่าวการฉ้อโกงนักลงทุนชาวฟินแลนด์ที่เข้ามาซื้อหุ้น DNA จากกลุ่มนายประสิทธิ์จางลง ราคาหุ้นตัวนี้ ซึมลงต่อเนื่อง จากราคาที่ถูกลากขึ้นไป 88 สตางค์เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ถูกปล่อยให้ไหลรูดลง จนลงมายืนที่ 27 สตางค์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา
นักลงทุนรายย่อยจำนวน 3,534 ราย กำลังตกอยู่ในสภาพรอวันตาย เพราะอนาคตหุ้นตัวนี้ดูเหมือนจะมืดมน จนถึงขั้นต้องขายบริษัทลูกเพื่อประคับประคองสถานการณ์บริษัทฯ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์ ประกาศคำเตือนด่วนถึงผู้ถือหุ้น DNA ขอให้ศึกษาข้อมูลและร่วมไปใช้สิทธิออกเสียง วาระการขายหุ้นบริษัทลูก ในการประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 24 ธันวาคมนี้ ซึ่งปรึกษาการเงินอิสระเห็นว่าไม่เหมาะสมและผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติ
การผลักดันวาระการขายหุ้นบริษัทลูก กำลังสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของ DNA และราคาหุ้นที่ทรุดหนัก เป็นตัวตอกย้ำถึงฐานะที่ไม่น่าไว้วางใจของกิจการ
การตัดสินใจว่า จะอนุมัติวาระการขายหุ้นบริษัทลูกหรือไม่ แม้จะมีความสำคัญต่อผู้ถือหุ้นทุกราย
แต่การตัดสินใจว่า ควรถือหุ้น DNA ต่อไปหรือชิงขายทิ้ง ก่อนเจ็บตัวกว่านี้ อาจมีความสำคัญมากกว่า