xs
xsm
sm
md
lg

คลังเล็งใช้วิธีลงทะเบียนคนจนเป็นรายครอบครัว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สศค. เผยผลรายงานความคืบหน้าในการพัฒนาชีวิตผู้ถือบัตรสวัสดิการที่อยู่ในความรับผิดชอบของออมสินและ ธ.ก.ส. เป็นที่น่าพอใจ ระบุ คลังจะปรับปรุงเกณฑ์คุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนคนจนในรอบใหม่ และเปลี่ยนวิธีการลงทะเบียนแบบรายครอบครัวแทนลงทะเบียนเป็นรายบุคคล

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงการพิจารณาก้าวหน้าในการพัฒนาตัวเองของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 3.2 ล้านรายที่อยู่ในความรับผิดชอบของธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ว่า ทั้ง 2 ธนาคารได้ส่งรายงานผลการพัฒนาของแต่ละธนาคารให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้รับทราบแล้วเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา

โดยการรายงานผลเป็นที่น่าพอใจ แต่ยังมีปัญหาความคลาดเคลื่อนในเรื่องของการประเมินที่แตกต่างกันตามเกณฑ์การมีรายได้เพิ่มขึ้นของธนาคารทั้ง 2 แห่งได้กำหนดขึ้นมานั้นทำให้เมื่อนำยอดรวมของทั้ง 2 ธนาคารแล้ว ไม่สามาถบวกรวมกันได้ทันที เนื่องจากจะก่อให้เกิดความคลาดเคลื่อน ซึ่ง สศค. ไม่ต้องการให้ข้อมูลชุดนี้มีความผิดพลาด ดังนั้น จึงได้ขอให้ไปดูที่มาในการจัดทำเกณฑ์และการคิดคำนวณของธนาคารทั้ง 2 ใหม่อีกครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลาอีกนิดหน่อยก่อนที่ สศค. จะพิจารณาก่อนที่จะประกาศผลการประเมินความคืบหน้าให้รับทราบต่อไป

ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะเปิดให้มีการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยในรอบหน้านั้น ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวว่า จะต้องมีการเรียนรู้บทเรียนที่เกิดขึ้นจากการลงทะเบียนในรอบที่ผ่านมาซึ่งการลงทะเบียนในรอบที่ผ่านมาเป็นการได้มาซึ่งข้อมูลที่ใหญ่มากและเป็นสิ่งที่ยังไม่เคยมี อีกทั้งยังมีความแม่ยำสูงกว่าการทำสัมมะโนประชากรของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เนื่องจากกระทรวงการคลังได้ส่งคนลงพื้นที่เพื่อทำการสำรวจข้อมูลจริง ดังนั้นหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังได้กำหนดไว้ในช่วงแรกได้พอจารณาถึงความเหมาะสม เช่น เกณฑ์รายได้รวมต่อปี เกณฑ์มูลค่าการถือครองทรัพย์สิน แต่เมื่อเวลาผ่านไปจึงได้เรียนรู้ถึงช่องโหว่ของมาตรการเหล่านี้มีอะไรบ้างจนทำให้เกิดเสียวิพากษ์
วิจารณ์ในโซเชี่ยวถึงความยากจนที่ไม่จนจริง

นายลวรณ ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่จริงทำให้พบว่า ในสังคมไทยจะมีบ้านผู้มีอันจะกินอยู่ในชุมชนนั้นๆ โดยอาจจะมีบ้านที่ทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ในชื่อพ่อ ส่วนแม่เป็นแม่บ้าน และลูกยังเรียนหนังสือ ซึ่งในกรณีแบบนี้ทำให้แม่และลูกที่ไม่มีรายได้สามารถขอลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐได้เนื่องการลงทะเบียบนั้นจะลงเป็นรายคนตามสิทธิที่แต่ละคนมีโดยที่ทางการไม่สามารถตัดสินบุคคลนั้นได้ ดังนั้น ในรอบหน้าหากรัฐบาลจะเปิดรับลงทะเบียน กระทรวงการคลังจะเปลี่ยนจากการลงทะเบียบรายตัวจากจำนวนรวมทั้งสิ้น 14.5 ล้านราย มาเป็นลงทะเบียนเป็นรายครอบครัวที่มีจำนวน 8.2 ล้านครอบครัวโดยจะมีการพิจารณาปรับเกณฑ์รายได้รวมต่อปีให้สูงขึ้นกว่า 100,000 บาทด้วยรวมถึง จะมีการพิจารณาถึงหลักเกณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น เกณฑ์เรื่องการมีรถยนต์ เกณฑ์การถือบัตรเครดิต เพื่อพิจารณาถึงความมั่งคั่งของแต่ละครอบครัวด้วย ซึ่งจะช่วงปิดช่องโหว่ในการลงทะเบียนขอรับสวัสดิการจากรัฐ และทำให้มั่นใจว่าการลงทะเบียนรอบหน้าจะมีความแม่นยำมากขึ้นด้วย เพื่อทำให้รัฐบาลมีมาตรการที่จะออกมาดูแลและพัฒนาที่เหมาะสม และสามารถลดจำนวนผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ลงได้เรื่อยๆ ตามสภาพความเป็นจริงในการมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจริงจากการมีอาชีพ มีงานทำของผู้ถือบ้ตรในแต่ละรอบของการเปิดรับลงทะเบียน

อย่างไรก็ตาม นายลวรณ ยังแจ้งเตือนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่าหลงเชื่อเฟซบุ๊คเพจปลอมที่ใช้ชื่อโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อรับจ้างตรวจผลการลงทะเบียนฯ โดยคิดค่าจ้าง 20 บาทต่อรายเนื่องจากผู้ถือบัตรฯ สามารถตรวจสอบผลการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ "ฟรี" ได้ที่ www.epayment.go.th หรือที่ สศค. หมายเลขโทรศัพท์ 02-273-9020 ต่อ 3224, 3279, 3244, 3236, 3215


กำลังโหลดความคิดเห็น