xs
xsm
sm
md
lg

กนง. ลงมติ 5:2 ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายรอบ 7 ปี 0.25%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กนง. มีมติ 5:2 เสียง ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ครั้งแรกในรอบ 7 ปี เหตุภาวะเศรษฐกิจขยายตัว ความจำเป็นพึ่งพานโยบายผ่อนคลายทางการเงินลดลง คาดการปรับขึ้นเพียงเล็กน้อยกระทบต่อดอกเบี้ยเงินกู้ไม่มากนัก พร้อมปรับประมาณการณ์จีดีพีปีนี้ ลดลงมาอยู่ที่ 4.2% จากเดิมคาด 4.4%

นายทิตนันทิ์ มัลลิกามาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง. วันนี้(19 ธ.ค.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.5% เป็น 1.75% ซึ่งถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 โดยคณะกรรมการเห็นว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามแรงส่งของอุปสงค์ในประเทศ แม้อุปสงค์ต่างประเทศชะลอลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน มีแนวโน้มใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ขณะที่ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลาย และเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องเป็นเวลานาน ในช่วงที่ผ่านมา มีส่วนช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวในระดับที่สอดคล้องกับศักยภาพ และกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ดังนั้น กรรมการส่วนใหญ่จึงเห็นว่า ความจำเป็นในการพึ่งพานโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากมีความจำเป็นน้อยลง รวมทั้งเพื่อสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy space) สำหรับอนาคต และกรรมการยังเชื่อว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% ยังเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

“เศรษฐกิจภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในระดับที่สอดคล้องกับศักยภาพ แม้การส่งออกสินค้าได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอลง และมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ขณะที่การท่องเที่ยวชะลอลงโดยเฉพาะจากจีน แต่เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น ด้านการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวตามรายได้ครัวเรือนนอกภาคเกษตรที่ปรับดีขึ้น และกระจายตัวมากขึ้น รวมทั้งได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐเพิ่มเติม” นายทิตนันทิ์ กล่าว

นายทิตนันท์ กล่าวว่า สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปียังมีแนวโน้มทรงตัว แต่มีความเสี่ยงด้านต่ำ จากความผันผวนของราคาพลังงาน และอาหารสด อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ที่ปรับสูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ ในระยะต่อไป อัตราแลกเปลี่ยนยังมีแนวโน้มผันผวน คณะกรรมการจึงให้ติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยน และผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดต่อไป

การปรับดอกเบี้ยที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยในตลาดจะเริ่มทยอยปรับตาม แต่สำหรับครั้งนี้คงต้องคอยติดตามว่าจะเป็นเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ ว่าเมื่อดอกเบี้ยขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตลาดพันธบัตรและธนาคารพาณิชย์จะทยอยปรับขึ้น นอกจากนี้ ยืนยันว่า การขึ้นดอกเบี้ยนั้น แม้จะมีผลกระทบบ้างแต่คงไม่มากนัก เพราะขึ้นในอัตราที่น้อยเพียง 0.25% เท่านั้น โดยมองว่า กลุ่มภาคครัวเรือน มีสัดส่วน 1 ใน 3 ที่ใช้ดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัย ภาระอาจไม่เพิ่มขึ้นมาก แต่ยังมีบางส่วนที่ยังเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่

ทั้งนี้ ในการประชุม กนง. ที่ประชุมยังได้ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้ ลดลงเหลือ 4.2% จากเดิมคาด 4.4% ขณะที่ส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ 7% ลดลงจากประมาณการครั้งก่อนที่ 9% ขณะที่การนำเข้า คาดว่าจะขยายตัวได้ 15.3% จากเดิมคาด 16.9% ขณะที่ปีหน้าคาดว่า จีดีพีจะขยายตัวได้ 4% ลดลงจากประมาณการครั้งก่อนที่ 4.2% ด้านส่งออก และนำเข้า คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.8%

สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป คาดว่าจะอยู่ที่ 1.1% และปีหน้าที่ 1% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน คาดอยู่ที่ 0.7% และปีหน้าที่ 0.9% ด้านการบริโภคภาคเอกชนปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.7% และปีหน้าที่ 4% การลงทุนภาคเอกชน คาดปีนี้ที่ 3.6% และปีหน้าที่ 4.5%3 ส่วนการลงทุนภาครัฐ คาดปีนี้ที่ 4.6% และปีหน้าที่ 6.6%


กำลังโหลดความคิดเห็น