ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น เผยยอดขายโทรศัพท์มือถือช่วง 9 เดือนแรก ทะลุ 4.6 แสนเครื่อง มั่นใจทั้งปี 61 จะสามารถขายได้ 6.2 แสนเครื่อง เติบโตจากปีที่แล้ว 17.87% แจงปัจจัยสนับสนุนมาจากผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าดีไซน์สวยงาม สรุปยอดผู้ถือหุ้นใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ระดมเงินได้ 274.78 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอุตสาหกรรมตามแผน
นายกิตติพงศ์ กิตติภัสสร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดการณ์ว่า ในปี 2561 จะมียอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือมากกว่า 620,000 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่จำหน่ายได้ 526,000 เครื่อง หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 17.87% โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ TWZ สามารถจำหน่ายโทรศัพท์มือถือได้แล้วทั้งสิ้น 462,000 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 12.14%
“ยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือของ TWZ เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเพิ่มขึ้นจากทุกช่องทางการจำหน่าย เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จัดโปรโมชั่นที่สอดคล้องกับกิจกรรมการตลาดของผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง AIS ที่บุกตลาดอย่างต่อเนื่อง และยังได้นำเสนอโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์ TWZ รุ่นใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือในกลุ่ม U series ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างสูง รวมทั้งกลุ่ม Y Series ที่ออกสู่ท้องตลาดในช่วงก่อนหน้านี้ก็ได้นำกลับมาจัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับลูกค้าอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ผลิตภัณฑ์ของ TWZ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเข้าถึงเทคโนโลยี รวมถึงต้องการท่องโลกโซเชียลด้วยโทรศัพท์มือถือราคาไม่สูงมากนัก โดยส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคาประมาณ 2,000-3,000 บาท แต่สามารถตอบสนองความต้องการใช้บริการได้อย่างครบถ้วน ภายใต้รูปลักษณ์ที่ทันสมัย สวยงาม ทำให้โทรศัพท์มือถือ TWZ ยังสามารถครองใจผู้บริโภคในกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี” นายกิตติพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความได้เปรียบในด้านการให้บริการ โดยมีบริการหลังการขายจากพนักงานที่มีประสบการณ์ และพร้อมให้คำแนะนำกับลูกค้าผ่านศูนย์บริการและสาขาในกรุงเทพฯ และตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัด รวมทั้งการตอบคำถามเกี่ยวกับสินค้าผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้ง่าย ซึ่งมีส่วนในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
นายกิตติพงศ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้กำหนดให้มีการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน 4,172.72 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ตามสัดส่วนในอัตรา 3 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นเพิ่มทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.12 บาท เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนถึง 7 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่ามีผู้ถือหุ้นแสดงความจำนงใช้สิทธิเพิ่มทุน จำนวน 449 ราย คิดเป็นจำนวน 2,289.871 ล้านหุ้น ทำให้บริษัทฯ ได้รับเงินจากการเพิ่มทุน 274.78 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวยังได้รับสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ (TWZ-W5) ในอัตรา 1 หุ้นสามัญใหม่ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่า หลังจากนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอุตสาหกรรมตามวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนต่อไป
“บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ทำให้บริษัทฯ สามารถระดมเงินสำหรับการขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจเป็นอย่างมากในการขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวภายใต้การสนับสนุนที่แข็งแกร่งของผู้ถือหุ้น” นายกิตติพงศ์ กล่าว