xs
xsm
sm
md
lg

“KWG” เล็งผุด “สมาร์ทซิตี ฉะเชิงเทรา-อยุธยา” 2 โครงการเมกะโปรเจกต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

S61 สุขุมวิท61
“คิง ไว กรุ๊ป” เผยอยู่ระหว่างศึกษาและจัดทำโรดแมป 2 โครงการเมกะโปรเจกต์ “สมาร์ท ซิตี ฉะเชิงเทรา” บนเนื้อที่โครงการ 2,000 ไร่ และ “สมาร์ทซิตี อยุธยา” โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่บนพื้นที่โครงการ 2,600 ไร่ ย้ำเชื่อมั่นศักยภาพของตลาดอสังหาฯ เมืองไทย ล่าสุด เปิดคอนโด “S61 SUKHUMVIT BY KWG” Luxury Condominium ย่านเอกมัย ราคาเริ่มต้น 7.69 ล้านบาท มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท คาดปิดการขายภายในปี 2562 แย้มสถานีต่อไป “S31” สุขุมวิท 31 ชูการผสมผสานนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัย และใส่ใจสิ่งแวดล้อม

นายเฮนรี ชาน รองประธานกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิง ไว กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ GWG กล่าวว่า ได้ซื้อที่ดินสะสม 2 แปลง ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ขนาด 2,000 ไร่ และในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อที่ 2,600 ไร่ เพื่อรองรับแผนการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งในเบื้องต้น ใช้ชื่อว่า “สมาร์ท ซิตี” โดยความคืบหน้าของทั้ง 2 โครงการนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา และวางผังออกแบบมาสเตอร์แปลนของโครงการ เพื่อเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กศน.) หรือคณะกรรมการอีอีซี เพื่อขออนุมัติการพัฒนาโครงการในจังหวัดฉะเชิงเทรา

สำหรับรูปแบบการพัฒนาโครงการทั้ง 2 แห่งนั้น จะแบ่งการพัฒนาออกเป็นเฟสๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบเฟสที่ 1 ทั้งนี้ ในโครงการทั้ง 2 แห่งจะประกอบไปด้วย โครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบ และแนวสูง ซึ่งแนวสูงนั้นจะสูงไม่เกิน 8 ชั้น นอกจากนี้ ภายในโครงการยังประกอบไปด้วย สถาบันการศึกษา สวนสนุก สถานบันเทิง ซึ่งในส่วนของโครงการอื่นๆ นอกเหนือจากที่อยู่อาศัยนั้น บริษัทจะเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเป็นมืออาชีพในแต่ละด้านเข้ามาร่วมกันพัฒนา

ล่าสุด KWG ได้เปิดตัวโครงการ “S61 SUKHUMVIT BY KWG” ณ สำนักงานขายบนถนนพระราม 4 โครงการ S61 เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร บนเนื้อที่ 1-1-98 ไร่ มีความเป็นส่วนตัวสูงด้วยจำนวนยูนิตเพียง 126 ยูนิต หรือ 9 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ด้วยพื้นที่อยู่อาศัยกว้างขวางเริ่มต้น 40-160 ตารางเมตร โดยมีแบบห้องให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ 1-Bedroom ขนาด 40-46 ตารางเมตร 2-Bedrooms ขนาด 56-70 ตารางเมตร 3-Bedrooms ขนาด 79-95 ตารางเมตร และ Penthouse ขนาด 135-160 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นต่อหน่วยที่ 192,000 บาทต่อตารางเมตรโดยประมาณ ในราคาเริ่มต้นที่ 7.69-10 ล้านบาท Fully-Furnished ตกแต่งครบด้วยเฟอร์นิเจอร์ และวัสดุระดับพรีเมียม นอกจากโครงการ S61 สุขุมวิทแล้ว บริษัทยังมีแผนจะเปิดตัวโครงการ S31 ในซอยสุขุมวิทในเร็วๆ นี้

“แม้ว่าบริษัท คิง ไว กรุ๊ป จะเข้ามาในเมืองไทยได้ไม่นาน แต่เราได้มีการสร้างพื้นฐานที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ คิง ไว กรุ๊ป ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี โดยเราได้มีการขายโครงการ “วิลล่า อะคาเดีย ศรีนครินทร์” ไปจนหมดโครงการแล้ว และพื้นที่ของอาคารจูเวลเลอรี่เซ็นเตอร์ ที่คิง ไว กรุ๊ป เป็นเจ้าของร่วม ก็ได้รับการปล่อยเช่าไป 90% แล้ว ขณะนี้ KWG มุ่งมั่นที่จะขยายฐานธุรกิจทางด้านอสังหาฯ โดยโครงการ S61 SUKHUMVIT BY KWG ที่เปิดตัวในวันที่ 1 ธ.ค.61 จะเป็นคอนโดแห่งแรกในเมืองไทย กลุ่มลูกค้าหลักของเรา คือ กลุ่มลูกค้าที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ แต่ก็ต้องการมีพื้นที่เงียบสงบส่วนตัว กลยุทธ์ที่เราจะจับกลุ่มลูกค้าดังกล่าว คือ การมีทำเลที่ตั้ง การออกแบบดีไซน์ และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า มูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายปิดการขายภายในปี 2562”

สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีที่ผ่านมา จะเติบโตไม่มากนัก แต่เศรษฐกิจไทยในภาพรวมยังคงมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการมากมายสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ระบบขนส่งมวลชนที่ทำให้การคมนาคมสะดวกขึ้น หรือแพลตฟอร์มต่างๆ ของภาครัฐเพื่อสนับสนุนการเติบโตของภาคธุรกิจ ทางเราคิดว่า ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาล และจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยนี้ จะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเราสามารถเติบโตไปได้ดี โดยเฉพาะแผนการขยายเมืองของไทย และกลยุทธ์การสร้างไทยให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในอาเซียน จะส่งผลให้ธุรกิจอสังหาฯ เติบโต

นายเฮนรี กล่าวว่า King Wai Group (KWG) เป็นกลุ่มบริษัทจากฮ่องกง ที่มีฐานอยู่ในจีน ทางกลุ่มมีธุรกิจหลากหลาย ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการเงิน และธุรกิจค้าปลีกข้ามพรมแดน โดยมีโครงการ IMX (International Merchandise Exhibition and Exchange Center) หรือศูนย์จัดแสดงสินค้าครบวงจร รองรับโอกาสในการขยายตลาดนำเข้าสินค้าไปยังประเทศจีน ทางกลุ่มได้พัฒนาธุรกิจดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบ ตามโมเดล “Store-Warehouse-Exhibition-Customer” โดยมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างช่องทางออนไลน์-ออฟไลน์จากทั้งใน และต่างประเทศ

โดย KWG มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมชื่อเสียงในธุรกิจมายาวนานกว่า 30 ปี ในประเทศจีน และฮ่องกง โดยเริ่มขยายธุรกิจออกนอกประเทศหลังการปรับใช้นโยบาย “Belt and Road Initiative” (BRI) ของรัฐบาลจีน ทางกลุ่มเล็งเห็นว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว อีกทั้งยังเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศที่พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลาง และประตูสู่การทำธุรกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต KWG อาจยังไม่คุ้นกับคนไทยมากนักในวันนี้ แต่ถ้าเอ่ยถึงโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด โครงการ “King Wai City Oasis” ซึ่งตั้งอยู่ในเซี่ยงไฮ้ และเทียนจิน มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันมากกว่า 1.8 ล้านตารางเมตร และได้รับการรับรองจากศูนย์พิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กระทรวงปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งชาติจีน ให้เป็น “ที่อยู่อาศัยที่เป็นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” และ “อาคาร Low-Carbon Building”

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Bauhinia Valley ในเขตเป่าซาน มหานครเซี่ยงไฮ้ อันเป็นผลงานชิ้นเอกของคิง ไว กรุ๊ป ในด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ มุ่งเน้นการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม นวัตกรรมและเทคโนโลยี เชื่อมโยงแบรนด์ระดับโลกสร้างฐานอุตสาหกรรมของอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น