ซุปเปอร์ริชจับมือมาสเตอร์การ์ดออกบัตร Visit Thailand เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว แลกเงินใส่บัตร ตั้งเป้าสัดส่วน 50% หลังเปิดเฟส 2 ทำเอาต์บาวนด์ รับยอดแลกเปลี่ยนหดหลังนักท่องเที่ยวจีนลด
นายปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานกรรมการ บริษัทซุปเปอร์ริชเคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด กล่าวว่า ซุปเปอร์ริช (สีส้ม) ร่วมกับมาสเตอร์การ์ด เปิดตัวบัตร “Visit Thailand” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมาแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อบัตรดังกล่าวได้ที่ซุปเปอร์ริช ทุกสาขาทั่วประเทศ จากนั้น ทำการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างชาติเป็นเงินบาท เพื่อเพิ่มลงในบัตร Visit Thailand เพื่อจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยแทนเงินสดได้ในทุกร้านค้าที่มีสัญลักษณ์มาสเตอร์การ์ด
ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Visit Thailand Card บนโทรศัพท์มือถือ ทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และ iOS เพื่อทำการตรวจสอบยอดเงินในบัตร ตรวจสอบรายการใช้จ่าย รวมทั้งเปิด-ปิด การใช้บัตรได้ง่ายๆ และหากนักท่องเที่ยวมีความจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนเงินสำรอง ก็สามารถเติมเงินสกุลบาทในบัตรได้ที่ซุปเปอร์ริช ทุกสาขา กว่า 49 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2562 แนวโน้มยอดการซื้อขายสกุลเงินตราต่างประเทศ คาดว่าจะอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1-1.1 แสนล้านบาท ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่วางไว้อยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากยอดนักท่องเที่ยวจีนที่ปรับลดลงกว่า 50% จาก 1 ใน 4 เหลือเพียง 1 ใน 3 ประกอบกับได้รับผลกระทบจากการชำระเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์ เช่น อาลีเพย์ AliPay และ WeChat Pay เป็นต้น ทำให้ยอดการซื้อขายปรับลดลงราว 5-10%
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ออกบัตร Visit Thailand แล้ว ในปีหน้าตั้งเป้าหมายมียอดแลกเงินผ่านบัตร 5%ของยอดแลกเปลี่ยนรวมที่ตั้งไว้ 1.5 แสนล้านบาท และเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อนุญาตให้สามารถใช้บัตรดังกล่าวในต่างประเทศได้ ก็น่าจะมียอดแลกเปลี่ยนผ่านบัตรเพิ่มเป็น 50% ของยอดซื้อขายทั้งหมด โดยบัตรดังกล่าวไม่มียอดนำเข้าบัตรขั้นต่ำแต่มียอดนำเข้าได้ไม่เกิน 300,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกินครั้งละ 50,000 บาท และมีอายุการใช้งาน 3 ปี
ทั้งนี้ การซื้อขายสกุลเงินตราต่างประเทศ ส่วนใหญ่ประมาณ 60% ยังเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในไทย โดยสกุลหลักที่แลกนั้นจะเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ ยูโร เยน-ญี่ปุ่น ปอนด์ และหยวน ส่วนที่เหลืออีก 40% จะเป็นขาออก ส่วนใหญ่จะแลกซื้อสกุลเยน-ญี่ปุ่น เป็นหลัก