xs
xsm
sm
md
lg

กรุงศรีมองกรอบค่าบาทที่ 32.80-33.15 จับตาท่าที ธปท.หลังจีดีพี Q3 ต่ำกว่าคาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

กรุงศรีประเมินกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ที่ 32.80-33.15 ดอลลาร์สหรัฐ ยังอ่อนค่า พร้อมจับตาการดำเนินนโยบายของแบงก์ชาติ หลังจีดีพีไทยไตรมาส 3 ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ไว้

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.80-33.15 ต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 32.98 ต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลงมติ 4 ต่อ 3 เสียงให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.50% ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 5.7 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 4.8 พันล้านบาท ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังตลาดแสดงความไม่มั่นใจมากขึ้นต่อทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ มองว่านักลงทุนจะให้ความสนใจกับกระแสข่าวงบประมาณอิตาลี สถานการณ์การเมืองในสหราชอาณาจักร หลังรัฐมนตรี Brexit ประกาศลาออกจากตำแหน่ง และความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยตลาดเริ่มมีความหวังเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้า ซึ่งน่าจะจำกัดการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยลบของฝั่งยุโรปได้บ้าง ขณะที่ท้ายสัปดาห์ตลาดอาจผันผวนตามสภาพคล่องการซื้อขายที่ลดลง เนื่องจากสหรัฐฯ เข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาลขอบคุณพระเจ้า

สำหรับปัจจัยในประเทศ สภาพัฒน์รายงานจีดีพีไตรมาส 3/2561 เติบโต 3.3% เทียบรายปีและขยายตัว 0.0% เทียบรายไตรมาส ซึ่งย่ำแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้มาก ขณะที่ กนง. มองว่า การดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากในระดับปัจจุบันจะทยอยลดความจำเป็นลง มติคงดอกเบี้ยมีเสียงที่ไม่เอกฉันท์เพิ่มขึ้นโดยรอบล่าสุด มีกรรมการ 3 รายเห็นว่า เศรษฐกิจแข็งแกร่งเพียงพอ และภาวะการเงินที่ผ่อนคลายมากเป็นเวลานาน อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงด้านเสถียรภาพในระยะยาว จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่ในภาพรวม กนง. ประเมินว่า สงครามการค้าโลกเริ่มกระทบภาคส่งออกของไทย และยังมีปัจจัยชั่วคราว เช่น สภาพอากาศในเดือนกันยายน ส่วนเงินเฟ้อทั่วไป และเงินเฟ้อพื้นฐานมีทิศทางเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับที่คาดไว้ ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าสอดคล้องกับสกุลเงินภูมิภาค และมีแนวโน้มผันผวนต่อไป

ส่วนปัจจัยสำคัญที่ กนง. จะพิจารณา ได้แก่ เงินเฟ้อ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพของระบบการเงิน เรามองว่า การสื่อสารกับตลาดบ่งชี้ถึงความชัดเจนว่า ทางการใกล้ปรับขึ้นดอกเบี้ย สนับสนุนการคาดการณ์ของเราที่ว่า กนง. มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 1.75% ในวันที่ 19 ธันวาคม แม้ข้อมูลจีดีพีล่าสุดจะอ่อนแอกว่าคาด เนื่องจากอุปสงค์นอกประเทศเป็นหลัก
กำลังโหลดความคิดเห็น